เกษตรฯ ยังไม่จบกรณี “ปารีณา” รุกที่ ส.ป.ก.

กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – กระทรวงเกษตรฯ ยังไม่ปิดช่องเอาผิด “ปารีณา” ทำฟาร์มไก่ที่ ส.ป.ก. ชี้ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว แต่ยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ให้เกษตรกรแม้แต่รายเดียว เข้าข่ายครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เกินกว่า 500 ไร่  



แหล่งข่าวระดับสูงด้านกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยังมีช่องทางเอาผิด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ชื่อเขาสนฟาร์มในที่ดิน ส.ป.ก. เนื้อที่ 1,706 ไร่ บริเวณหมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีได้ แม้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จะรายงานต่อเลขาธิการ ส.ป.ก. เพื่อนำเรียน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของฟาร์มไก่ ส.ป.ก. และแบ่งแปลงให้มีเนื้อที่ไม่เกิน 500 ไร่ แต่หลังจากประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. ยังไม่ได้นำที่ดินแปลงนี้เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์และยังไม่เคยออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่เกษตรกรแม้แต่รายเดียว


จากการให้ถ้อยคำของ น.ส.ปารีณา ต่อเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมาย ส.ป.ก. ระบุว่า ครอบครัวได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินผืนนี้ตั้งแต่ปี 2489 ต่อมากรมป่าไม้ส่งมอบให้ ส.ป.ก.ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเมื่อปี 2554 ต่อมาเมื่อมีคำสั่ง คสช.ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2557 ให้ยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.จากผู้ที่ครอบครองเกิน 500 ไร่ เพื่อนำมากระจายสิทธิ์ให้แก่เกษตรกรและผู้ยากไร้เข้าทำกิน 

แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดปี  2557 อาจเอื้อประโยชน์แก่ครอบครัว น.ส.ปารีณา ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดราชบุรี โดยแบ่งซอยเป็นแปลงเล็กแปลงน้อย เนื้อที่ไม่ถึง 500 ไร่ จำนวน 58 แปลง แล้วนำเสนอต่อผู้บริหาร ส.ป.ก. แต่ปิดบังว่าเนื้อที่รวมกันมากถึง 1,706 ไร่นั้น ครอบครองโดยบุคคลเดียวคือ น.ส. ปารีณา จึงรอดพ้นจากการตรวจสอบมาได้

ทั้งนี้ ยังพบข้อน่าสังเกตที่ว่าหลังจากมีข้อร้องเรียน น.ส.ปารีณา ยังไม่ได้นำชี้แนวเขตและให้เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน ซึ่งยังไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการพิสูจน์สิทธิ์ครอบครองที่ดินตามกฎหมาย ส่วนข้อกล่าวอ้างที่ว่า ตรงกลางของที่ดินผืนนี้มีหนังสือการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินเป็น นส.3 และ สค.1 นั้นจำเป็นต้องพิสูจน์ความถูกต้องของเอกสารด้วย


แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า น.ส.ปารีณา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ว่า เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน 1,706 ไร่จริง ตั้งแต่ที่ดินยังเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ ภบท. 5 มาโดยตลอด ทั้งที่ปี 2561 ปลัด กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งเวียนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ยกเลิกการรับชำระภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินของรัฐทุกประเภทไปแล้ว อีกทั้งถือว่าการเสียภาษี ภทบ. 5 ไม่ได้เป็นหลักฐานในกรรมสิทธิ์ที่ดินแต่อย่างใด ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ปารีณา บ่งชี้ชัดเจนว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว ที่ยังไม่มีการมอบ ส.ป.ก.4-01 ให้ตามหลักกฎหมายแล้วไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปครอบครองได้

สำหรับการพิสูจน์ว่า น.ส.ปารีณา ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เกินกว่า 500 ไร่ แหล่งข่าวกล่าวว่า สามารถใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งจะเห็นรั้วของฟาร์มสามารถนำมากำหนดพิกัดและระบุเนื้อที่ได้ว่า เป็นแปลงเดียวที่มีขนาด 1,700 กว่าไร่จริงหรือไม่ นอกจากนี้ หาก น.ส.ปารีณา ไม่นำชี้แนวเขต เจ้าหน้าที่สามารถรังวัดจากพื้นที่โดยรอบรั้วของฟาร์มได้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่ามีการใช้ประโยชน์โดยบุคคลเดียว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ส.ป.ก.สามารถดำเนินการตามมาตรา 44 กำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย เปิดให้ผู้ครอบครองหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจมาแสดงสิทธิ์ หากไม่มาตามเวลาที่กำหนด สรุปได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่มีผู้ครอบครองสามารถยึดคืนหลวงทันที แต่หากมาพบเจ้าหน้าที่ต้องนำเอกสารถือครองสิทธิ์ทั้งหมดมาแสดง ซึ่งจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร หากฟังไม่ขึ้นสามารถใช้มาตรา 44 ยึดคืนได้ทันทีเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถฟ้องคดีแพ่งฐานบุกรุกที่ของรัฐและเรียกร้องค่าเสียหายจากการเข้าทำประโยชน์โดยมิชอบ ตลอดจนค่าชดเชยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ของรัฐ นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ซึ่งระบุว่าห้ามเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ รวมถึงการถาง และทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษมาตรา 108 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ฝ่าฝืนปฏิบัติตามระเบียบ หากผู้ฝ่าฝืนเพิกเฉยสามารถมีคำสั่งให้ออกจากที่ดินและหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในระยะเวลาที่กำหนด ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“การเร่งชี้แจงว่า น.ส.ปารีณา ไม่ได้บุกรุกที่ ส.ป.ก.อาจเป็นการด่วนสรุปเกินไป จนเกิดข้อกังขาว่ามีความพยายามที่จะช่วยเหลือกันในกลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐหรือไม่ หาก ส.ป.ก.ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา สามารถฟ้องร้องเอาผิดต่อ น.ส. ปารีณาตามประมวลกฎหมายที่ดินดังกล่าว อีกสิ่งที่สำคัญ คือ คำพูดของน.ส.ปารีณา ผ่านสื่อมวลชน ซึ่งยอมรับว่าเข้าทำประโยชน์ที่ดินแปลงนั้นทั้งหมด สามารถใช้มาตรา 44 ยึดคืนได้ ซึ่งต้องดูท่าทีของ ส.ป.ก.ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวกัมพูชาแห่ขึ้นปราสาทตาควาย มากผิดปกติ

7 ก.ค. – ชาวกัมพูชา แห่ขึ้นปราสาทตาควาย ร่ายคาถาภาษาเขมร ทำพีธีเซ่นไหว้ ด้านคนไทยหวังดี เตือนคุณตาวัย 76 พิการขา เดินดีๆ แต่เจอตอบสวน “ถึงจะล้ม ก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” บรรยากาศที่ปราสาทตาควาย มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา มาท่องเที่ยวมากผิดปกติกว่า 200 คน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยชาวกัมพูชา นำเครื่องเซ่นไหว้ เข้าไปในตัวปราสาทควาย บริเวณจุดทำพิธี ทำพิธีอะไรเป็นภาษาเขมร ระหว่างนั้นมีชายชาวกัมพูชา ขาด้วนหนึ่งข้างอายุ 76 ปี มาจากจังหวัดเสียมเรียบ ใช้ไม้ค้ำประคองตัวเอง เพื่อที่จะขึ้นบันไดปราสาท ด้วยความหวังดีคนไทยกลัวว่าชายขาด้วนจะลื่นล้ม เพราะตะไคร้น้ำขึ้นตามบันไดหนาแน่น เลยเตือนว่า “ระวังลื่นล้มน่ะตาเดินดีๆ” ยังไม่ทันพูดจบ แทนที่ชายขาด้วนจะขอบคุณ ตอบกลับมาว่า “ถึงจะล้มก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” นอกจากนี้ เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนักท่องเที่ยวกัมพูชากับนักท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงทหารฝั่งกัมพูชาและทหารฝั่งไทย หลังจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาเอาผ้าพันคอที่มีสัญลักษณ์ธงชาติกัมพูชาเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่ไทยห้ามปรามจนเกิดปากเสียงกัน แต่ไม่ได้บานปลายเพียงก่อกวน.-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน ลุ้นขยายเส้นตายออกไปจนถึง 1 ส.ค. ชี้การเจรจายังไม่จบ และข้อเสนอที่ส่งไปยังปรับปรุงได้ตลอด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐว่าในส่วนของประเทศไทยได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ทางสหรัฐพิจารณาไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยข้อเสนอที่ยื่นไปอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่นไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการที่เราเดินทางไปเจรจาก่อนหน้านี้ ข้อเสนอที่มีอยู่ไม่ถึงขนาดที่ต้องแก้ไขอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าเราไปฟังความเห็นของสหรัฐเองว่ามีรายการไหนที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เราก็นำกลับมาดูอีกครั้งและปรับปรุงเท่าที่เราทำได้แล้วส่งไปให้พิจารณาใหม่ โดยเป็นการยื่นในเรื่องอัตราภาษีและสินค้า ซึ่งก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่เขานั่งดูอยู่ที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี สหรัฐก็กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อเขาประกาศออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่จบสามารถที่จะปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ เมื่อถามว่าอัตราภาษีที่ไทยจะถูกเก็บจากสหรัฐยังคาดหวังที่ต่ำกว่า 18% ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่าขณะนี้ประเทศที่ได้เจรจาแล้วยังมีจำนวนน้อย ตอนนี้ก็ต้องดูว่าจากข่าวที่ออกมาว่าอาจมีการเลื่อนออกไปจนถึง 1 ส.ค. ถึงจะกำหนดอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศที่เหลือที่เจรจาแล้ว จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เมื่อถามว่าเราจะยอมเหมือนเวียดนามให้เขานำเข้าแบบเสียภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ นายพิชัย ตอบว่าอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราต้องใช้หลักในการเปิดใจคุยกันด้วยความปรารถนาที่ดี เขามีอะไรที่อยากได้ แล้วเราก็เอารายการที่เคยซื้อสินค้าจากสหรัฐทั้งหมดมาดูอีกครั้ง ดังนั้นถามว่าเป็นอย่างไรในเรื่องการนำเข้าสินค้าเพิ่ม เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตสินค้าในไทยด้วย ส่วนเรื่องของสินค้าสวมสิทธิ์เป็นเรื่องในหลักการอยู่ในข้ออื่นๆ ที่เขาก็ดูอยู่ ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ทำงานในเรื่องนี้ บางเรื่องเราก็ให้สหรัฐมาทำงานร่วมกัน เข้ามาดูด้วยกันซึ่งกติกาแบบนี้ต้องทำต่อเนื่องตอนนี้ยังไม่จบ ถามต่อว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มที่สหรัฐส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่จะต้องเสียเพิ่ม หรืออยู่ในกลุ่มที่ได้คุยต่อ นายพิชัย กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องรอดูก่อนว่าเขาว่าอย่างไร ซึ่งอีก 2 -3 วันก็จะได้ความชัดเจน.-314.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ยิ้มแย้ม ร่วมประชุม คกก.จัดงานเฉลิมพระเกียรติ

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ยิ้มแย้ม เข้าทำเนียบร่วมประชุม คกก.จัดงานเฉลิมพระเกียรติ ในฐานะ รมว.วัฒนธรรม ขณะที่ “ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยขบวนรถนายกรัฐมนตรี ได้ขับขึ้นจอดบนตึกไทยคู่ฟ้า ในเวลา 09.38 น. ก่อนจะเดินมาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2568 เฉลิมพระเกียรติ, พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในโอกาสวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี 20 กันยายน 2568 และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พฤศจิกายน 2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย […]

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]