เชียงใหม่ 8 พ.ย. – เทศกาลยี่เป็งที่เชียงใหม่ปีนี้ จังหวัดคุมเข้มมาตรการห้ามปล่อยโคมลอยครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอในเขตการบิน ขณะที่หลายสายการบินได้ยกเลิกและปรับเปลี่ยนเวลาบินเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน
ซากโคมลอยที่ตกเกลื่อนบนรันเวย์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นปัญหาใหญ่สำหรับการขึ้นลงของเครื่องบิน ซึ่งเกิดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ปีนี้ จ.เชียงใหม่ คุมเข้มใช้มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอยและโคมควัน โดยยึดตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ ปี 2562 ซึ่งกำหนดให้บริเวณแนวขึ้นลงของเครื่องบิน รวมระยะทางกว่า 18 กิโลเมตร เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ มีผลทำให้ 5 อำเภอ 35 ตำบล ซึ่งอยู่ในรัศมีเป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ห้ามจุดและปล่อยโคมลอยอย่างเด็ดขาด เพราะทุกปีที่ผ่านมาใช้วิธีขอความร่วมมือแต่ไม่เป็นผล ส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการบริหารความปลอดภัยด้านการบินในระดับสากล
ส่วนพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ให้ยื่นขออนุญาตจุดและปล่อยโคมลอยรวมทั้งโคมควัน ต่อนายอำเภอท้องที่ล่วงหน้า 15 วัน ก่อนถึงเทศกาล กำหนดระยะเวลาปล่อยโคมตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 01.00 น. ของวันที่ 11 และ 12 พฤศจิกายน ส่วนโคมควันให้จุดและปล่อยเฉพาะวันที่ 11 ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
ด้านผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวขานรับมาตรการคุมเข้มของจังหวัดเชียงใหม่ ยื่นขออนุญาตจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย ซึ่งเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวใน 6 อำเภอ ย่านชานเมือง รวมเกือบ 50,000 ลูก เช่นที่ อ.ดอยสะเก็ด ซึ่งอยู่นอกรัศมีการขึ้นลงของเครื่องบิน มีผู้ประกอบการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยื่นขออนุญาตจุดและปล่อยโคมลอยมากเกือบ 16,000 ลูก
ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อัตราโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่หลายสายการบินทั้งในและต่างประเทศยังยกเลิกและปรับเปลี่ยนเวลาการบิน เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดกับอากาศยานและผู้โดยสารในช่วงเทศกาลยี่เป็ง จำนวนเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาบินระหว่างวันที่ 10-12 พ.ย. ทั้งหมด 151 เที่ยวบิน ปริมาณผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงยกเลิกเที่ยวบินไม่ต่ำกว่า 10,000 คน. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► คาดลอยกระทงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่