fbpx

เร่งสางปม “แม่ธนาธร” รุกป่าชุมชน จ.ราชบุรี

กรุงเทพฯ 7 พ.ย. – อธิบดีกรมป่าไม้เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี หลังชาวบ้านร้องเรียนไม่สามารถดำเนินโครงการจัดตั้งป่าชุมชนได้ เนื่องจากมารดาของ “ธนาธร” อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนหนึ่ง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พลังประชารัฐและชาวบ้านหมู่ที่ 14 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ร้องเรียนร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เข้าครอบครองที่ดิน ซึ่งจะจัดตั้งเป็นป่าชุมชน จากการส่งเจ้าหน้าที่ทั้งของกรมป่าไม้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมที่ดินร่วมเป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดิน เพื่อจัดตั้งเป็นป่าชุมชนตามคำสั่งจังหวัดราชบุรี 

ทั้งนี้ ได้รังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินพื้นที่เป้าหมายในการจัดตั้งป่าชุมชนจำแนกได้ว่า มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งชุมชนสามารถยื่นคำขอจัดตั้งป่าชุมชนได้ทันที ส่วนที่ 2 พื้นที่ป่าไม้ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมผู้แทนสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีแจ้งว่า จะส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่กรมป่าไม้ เพื่อนำไปจัดตั้งเป็นป่าชุมชน ส่วนพื้นที่ที่นางสมพรครอบครองและผู้แทนนางสมพรระบุว่า มีเอกสารตามประมวลกฎหมายที่ดิน ผู้แทนนางสมพรแจ้งให้ที่ประชุมคณะทำงานฯ ว่า นางสมพร ยินดีที่จะบริจาคที่ดินให้แก่หน่วยงานของรัฐในการนำไปจัดตั้งเป็นป่าชุนชน เพื่อให้ชุมชนดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ต่อไป


นายอรรพล กล่าวว่า การจำแนกพื้นที่เป็น 3 ส่วนดังกล่าวเป็นผลจากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องรังวัดเพื่อชี้แนวเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยผลการรังวัดทั้งของกรมป่าไม้ ส.ป.ก. และกรมที่ดินต้องตรงกันจึงจะสามารถดำเนินการขั้นต่อไปในการจัดตั้งป่าชุมชนได้ สำหรับที่ดินของนางสมพร ระบุว่า มีเอกสารตามประมวลกฎหมายที่ดินนั้น การที่ผู้ครอบครองยินดีสละสิทธิ์แล้วจะจัดตั้งป่าชุมชนได้ทันที จำเป็นต้องตรวจสอบสิทธิ์ ความถูกต้องของเอกสาร และที่สำคัญ คือ กำหนดขอบเขตที่ดินให้ชัดเจนก่อนจึงจะจัดตั้งป่าชุมชนได้ในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐ (คทช.) แต่ถ้ายังมีปัญหาเรื่องขอบเขตที่ดินที่ทับซ้อนกันของหน่วยงานรัฐและการครอบครองสิทธิ์ไม่ถูกต้องต้องดำเนินการตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย