สธ.6 พ.ย.-องคมนตรี แนะเร่งสร้าง รพ.คุณธรรม ช่วยสร้างความเข้าใจหมอ คนไข้ และยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้มีคุณภาพ
นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษ จากองค์กรคุณธรรมสู่สังคมคุณธรรม ในงานสัมมนาการขับเคลื่อนโรงพยาบาลคุณธรรม ว่า ในปี 2549 สถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยในขณะนั้น มีความขัดแย้ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประทับรักษาพระอาการประชวรอยู่ที่ รพ.ศิริราช ทรงมอบแนวทางการทำงานเพื่อพัฒนาและสร้างคนดี ด้วยโรงเรียนคุณภาพ ทรงมีรับสั่ง ต้องการพัฒนาคนให้คนเป็นคนดี เพื่อบ้านเมือง จะเห็นได้ว่าไม่ได้ต้องการคนเก่ง ซึ่งในครั้งนั้นได้นำมาพัฒนา ในโรงเรียนที่ไม่ได้มีเด็กเก่งเยอะ และกลับช่วยสร้างให้โรงเรียนมีเด็กเก่งเพิ่มขึ้น จากการปรับเปลี่ยนแนวความคิด ให้คนเก่งได้ช่วยเหลือคนอื่น เกิดเครือข่าย ไมใช่การสอนเพื่อการแข่งขันในกลุ่มเด็ก เหมือนที่สังคมกำลังเป็นอยู่
นพ.เกษม กล่าวต่อไปว่า โรงเรียนคุณธรรม ก็ไม่แตกต่างจากโรงพยาบาลคุณธรรม เพียงแต่ปรับเปลี่ยนแนวคิด ใช้ หลัก 6 ข้อ ทุกโรงพยาบาลปฏิบัติ 1.ให้สำรองความเห็นของทุกคนในการพัฒนา ที่เห็นพ้องต้องกัน 2.ระดมความคิดจัดทำบัญชี แยกพฤติกรรมในอดีตกับปัจจุบัน 3.เร่งปฏิบัติในสิ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน 4.ให้แต่ละภาคส่วนรวมกันทำร่วมกัน 5.ประชุมใหญ่ ประกาศเจตนารมย์ และ 6.เมื่อครบ 1 ปี มาดูว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ โดยโรงพยาบาลคุณธรรม เริ่มดำเนินการทั้งในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข,กทม. และโรงเรียนแพทย์ โดยโรงเรียนแพทย์ทำยากที่สุด
นพ.เกษม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการประสบความสำเร็จไปแล้วอย่างมากที่ รพ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่ประชากรน้อย ได้รับงบประมาณน้อย ทำอย่างไรก็ไม่พอ เหมือนมี รพ.คุณธรรมเกิดขึ้น ทุกอย่างกลับพอและดูเหลือด้วยซ้ำ เพราะทุกคนตั้งใจทำ อย่างเช่น รพ.ชลบุรี มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ จากกรณีที่จอดรถไม่พอต้องมีการติดสินบน รปภ.เรื่องที่จอดรถ แต่เมื่อมีการแก้ไข ทำให้ไม่เกิดปัญหาอีก นำไปพัฒนาถึงการจัดซื้อจัดจ้าง ช่วย รพ.ประหยัดงบประมาณ หรือ รพ.จุฬาลงกรณ์ มีปัญหาเรื่องการที่แพทย์ พยาบาลพูดจากับคนไข้ไม่ดี ก็ได้รับการแก้ไข จนดีขึ้น เรื่องนี้สะท้อนของการปรับแนวคิด การพัฒนา ซึ่ง หากทุกที่ทำได้ ก็จะช่วยพัฒนาประเทศและขยายเป็นวงกว้าง เกิดความสามัคคี เพราะการงานจะสำเร็จได้ ต้องมีใจเดียวกัน ทำอะไรเป็นเครือข่าย .-สำนักข่าวไทย