องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำที่กรมชลประทาน

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำที่กรมชลประทาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมรับฟังด้วย อธิบดีกรมชลประทานรายงานสาเหตุของการเกิดอุทกภัยรุนแรงในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ รวมถึงแนวทางบริหารจัดการน้ำเพื่อเร่งคลี่คลายความเดือดร้อนของประชาชน


นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2567 ที่กรมชลประทาน โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ร่วมรับฟังด้วย​ ทั้งนี้​นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค​ อธิบดี​กรม​อุตุ​นิยม​วิทยา ​รายงานการคาดหมายลักษณะ​อากาศ​ช่วงปลายฤดู​ฝน ซึ่งยังคงมีฝนตกชุก​ ที่​ผ่าน​มายัง​ไม่มีพายุ​หมุนเขตร้อนเคลื่อน​ตัวเข้าสู่​ประเทศ​ไทย​ ล่าสุด​พายุ​ไต้ฝุ่น​ยางิซึ่ง​ขึ้นฝั่งที่ประเทศ​เวียดนาม​และ​อ่อนกำลัง​ลง​ที่ลาว​ แม้ไม่เคลื่อนตัวมาถึง​ประเทศไทย​ แต่หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​จากพายุ​ที่อ่อนกำลัง​ลง​ทำให้​ประเทศ​ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น​ โดยฝนตก​หนัก​บาง​พื้นที่​ โดยเฉพาะ​ในภาคเหนือ​ตอน​บน​ที่จังหวัด​เชียง​รายและเชียงใหม่​ ส่วน​ทิศทาง​ของ​พายุ​เบบินคาจะไม่เข้าสู่​ประเทศ​ไทย กรมอุตุนิยมวิทยา​ยังคงเฝ้า​ระวัง​พายุ​หมุนเขตร้อนที่อาจก่อตัวในม​หา​สมุทรแปซิฟิก​และ​ทะเล​จีน​ใต้​ ซึ่ง​หาก​เกิด​พายุ​หมุนเขตร้อน​ที่​จะเข้​าสู่ประเทศ​ไทยในครึ่งหลัง​ของ​เดือนกันยายน​จะมีทิศทาง​การ​เคลื่อนผ่าน​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ อีกทั้งในเดือตุลาคม​ พฤศจิกายน​ และ​ธันวาคม​ ยังมีโอกาส​ที่​พายุ​จะเคลื่อน​ตัวเข้ามา​ แต่ทิศทาง​การ​เคลื่อน​ตัวจะอยู่ต่ำลงไป​ ดังนั้นจึงจะเฝ้า​ระวัง​การ​ก่อตัว​ของ​พายุ​และ​สภาพอากาศ​ในฤดู​ฝนอย่าง​ต่อเนื่องเพื่อ​แจ้ง​เตือน​ล่วงหน้า​ ภาพ​รวมปริมาณ​ฝนทั้ง​ประเทศ​ตั้งแต่​ต้นปี​ 2567​ ถึง​ปัจจุบันปริมาณ​ฝนยังต่ำกว่า​ค่าปกติ​ 4% ฤดู​ฝนเริ่ม​ต้นในเดือนพฤษภา​คตามปกติ​ แต่​ฝนตกสะสมในเดือ​นสิงหาคม​เป็น​ต้นมา​ ครึ่ง​หลังของ​เดือน​กันยายน​ยังต้องเฝ้า​ระวัง​ฝนตกหนัก​บางพื้นที่​ ส่วน​ปรากฏ​เอนโซ​ ปัจจุบัน​อยู่​ในสภา​วะปกติ​ (Neutral) ต่อ​เนื่องไปอีก​ 1 -​ 2 เดือน ​จาก​นั้นจึง​จะ​เข้า​สู่สภาวะ​ลานีญา​ ฝนที่​ตกขณะนี้​มาจากร่องมรสุม​ที่​พาดผ่าน​ มรสุม​ตะวันตกเฉียงใต้​ และ​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​

นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน รายงานสาเหตุของการเกิดอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ว่า เกิดจากอิทธิพลของพายุยางิ ซึ่งแม้อ่อนกำลังลงในประเทศลาว แต่หย่อมความกดอากาศต่ำยังทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยในจังหวัดเชียงรายนั้น วัดปริมาณฝนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 9 -11 กันยายน 2567 ที่สถานีวัดน้ำฝนอ้ำเภอแม่สาย 254.4 มิลลิเมตร อำเมือง วัดได้ 155.5 มิลลิเมตร อำเภอแม่จัน วัดได้ 153.5 มิลลิเมตร ทำให้ลำน้ำแม่สาย แม่กก และแม่จัน ล้นตลิ่ง ส่วนที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงแม่น้ำฝางล้นตลิ่งเนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำกกสูงจึงเอ่อท้น


ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายฝนหยุดตก ปริมาณน้ำในลำน้ำแม่สาย แม่จัน และกก แนวโน้มทรงตัว พื้นที่ประสบอุทกภัย 10 ตำบล 6 อำเภอ เนื้อที่ 1,200 ไร่ ส่งผลกระทบต่อ 613 ครัวเรือน ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในเขตเทศบาลตำบลแม่อายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วและมีน้ำขังในบ้านเรือนประชาชนบางส่วน โดยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนกำลังฉีดล้างทำความสะอาด ถนน และบ้านเรือน ลำน้ำแม่ใจและแม่มาวมีแนวโน้มลดลง สามารถระบายลงสู่ลำน้ำฝางได้เร็วขึ้น ถนนสายหลักสามารถสัญจรได้ เว้นถนนซอยในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมลำน้ำยังมีน้ำท่วมขัง ความสูงประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร แต่แม่น้ำฝางช่วงปลายยังล้นตลิ่ง

ในการช่วยหลือนั้น โครงการชลประทานเชียงรายได้เร่งระบายน้ำสายเข้าสู่คลองระบายต่าง ๆ ลงสู่ลำน้ำน้ำมะ ลำน้ำรวก และแม่น้ำโขง พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และได้เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือรองรับสถานการณ์ เช่นเดียวกับที่จังหวัดเชียงใหม่ที่สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รถไฮดรอลิค รถบรรทุกน้ำ และถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ได้รับผลกระทบท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากการระบายน้ำเกินกว่า 700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้มีน้ำเอ่อท้นในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา โดยวันนี้ระบายที่ 1,248 ลบ.ม./วินาที ซึ่งลดลงจากเมื่อวานซึ่งระบายที่ 1,399 ลบ.ม./วินาที โดยปรับลงให้สอดคล้อง​กับ​ปริมาณ​น้ำที่ไหลลงมาจากตอนบนและลดผลกระทบ​ต่อพื้นที่​ด้านท้าย​น้ำ​ แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ฝนที่จะเพิ่มขึ้นจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ซึ่งได้วางแผนบริหารจัดการด้วยการเร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างออกสู่ทะเลเพื่อรองรับฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ประกอบกับระหว่างวันที่ 15-20 กันยายน 2567 จะมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ขณะนี้ใช้สถานีสูบน้ำฝั่งตะวันออกของลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างเร่งพร่องน้ำที่ระบายจากกรุงเทพมหานครออกสู่ทะเลเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาตั้งแต่วันที่ 13 – 22 กันยายนนี้


ส่วนแนวทางการบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมอุตุฯ คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ได้เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชีให้ไหลลงแม่น้ำน้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วด้วยการควบคุมบานระบายของเชื่อนในแม่น้ำชีทุกแห่ง ทั้งนี้ จะต้องควบคุมไม่ให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วเป็นการป้องกันไม่ให้ตลิ่งทรุดและให้มีระดับน้ำที่แพสูบน้ำต่างๆ ของท้องถิ่นสามารถลอยน้ำอยู่ได้ ตลอดจนเฝ้าระวังและป้องกันพื้นที่น้ำท่วมชุมชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เทศบาลเมืองวารินชำราบ และอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการวางแผนเสริมกำแพงปิดช่องว่างที่ระดับ +113.50 ม.รทก. จากความจุลำน้ำเดิม 2,300 ลบ.ม./วินาที จะเพิ่มเป็น 3,200 ลบ.ม./วินาที โดยเพิ่มความจุลำน้ำขึ้นอีก 39% นอกจากนี้พร่องน้ำที่เขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนาให้มากที่สุด แขวนบานที่เขื่อนปากมูลเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวม 52,308 ล้าน ลบ.ม. ของความจุเก็บกัก คิดเป็น 65% แต่เร่งระบาย​น้ำจากอ่างเก็บน้ำ​ที่มีปริมาณ​น้ำ​มากเพื่อให้​มีพื้นที่​รองรับน้ำจากฝนที่จะตกลงมาใหม่. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย