ภาวะครรภ์เป็นพิษ แม่-เด็กในครรภ์ เสี่ยงถึงเสียชีวิต

กรมการแพทย์ 6 พ.ย.-กรมการแพทย์เผยภาวะครรภ์เป็นพิษ มีผลต่อมารดาและเด็กในครรภ์ เสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต ควรฝากครรภ์ตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์ พบแพทย์สม่ำเสมอ หมั่นดูแลสุขภาพและสังเกตอาการต่างๆ เพื่อป้องกัน


นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งมักจะมีอาการในช่วงอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไป โดยระดับของภาวะครรภ์เป็นพิษแบ่งเป็น 3 ระดับ 1.ระดับไม่รุนแรง มารดาจะมีความดันโลหิตขึ้นสูง มีอาการบวมปานกลาง และตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน  2.ระดับรุนแรง มารดาจะมีอาการปวดศีรษะมาก ตามัว จุกเสียดแน่นบริเวณลิ้นปี่ เกล็ดเลือดต่ำ มีภาวะเม็ดเลือดแตก บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นมีภาวะน้ำท่วมปอดหรือมีเลือดออกในสมอง 3.ระดับรุนแรงเกิดอาการชัก เป็นระยะที่รุนแรงที่สุดและมักเกิดตามหลังครรภ์เป็นพิษรุนแรง ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ ผู้ป่วยจะมีอาการชัก เกร็ง หรือหมดสติ อาจทำให้แม่และเด็กในครรภ์ได้รับความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 


ส่วนสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน  เช่น  ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความผิดปกติ หลอดเลือดบริเวณรกมีความผิดปกติ กรรมพันธุ์ มีโรคประจำตัวเรื้อรังก่อนตั้งครรภ์ เป็นต้น 

ด้าน นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเสริมว่า ภาวะครรภ์เป็นพิษที่อยู่ในระดับรุนแรง ทำให้มีผลแทรกซ้อนต่อมารดาและเด็กในครรภ์ มารดาอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต สาเหตุมักเกิดจากมีเลือดออกในสมองหรืออวัยวะต่างๆ เกิดอาการชัก มีภาวะน้ำท่วมปอด อาจต้องยุติการตั้งครรภ์เพื่อป้องกันมารดาเสียชีวิต และสำหรับเด็กในครรภ์ อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้เช่นกัน หรือทารกเติบโตช้าผิดปกติ มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด และที่พบบ่อยคือการคลอดก่อนกำหนด 


“ในระหว่างตั้งครรภ์ควรหมั่นดูแลสุขภาพ สังเกตอาการต่าง ๆ ถ้ามีภาวะความดันโลหิตขึ้นสูงมากผิดปกติ ปวดศีรษะมาก ตามัว หรือมีสิ่งผิดปกติอื่นๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากการตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรก สามารถ ให้การดูแลรักษาอย่างปลอดภัยได้ แนะนำว่าควรฝากครรภ์ตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์ พบแพทย์สม่ำเสมอ งดทำงานหนัก พักผ่อนให้มาก หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มน้ำสะอาดให้มาก เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน” นพ.สมเกียรติ กล่าว  

สำหรับภาวะครรภ์เป็นพิษ จะมีอาการดีขึ้นหลังจากคลอด แต่ยังมีโอกาสชักได้อยู่ในระยะ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด โดยในช่วงหลังคลอดมารดาอาจยังมีภาวะความดันโลหิตสูง แต่หากเกิน 12 สัปดาห์ไปแล้ว ยังคงมีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่ มารดาอาจจะเป็นภาวะความดันโลหิตสูงชนิดเรื้อรังได้ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง