คุก 2 ปี หมอเถื่อนเสริมเต้า ทำลูกค้าสาวดับ

กทม. 5 พ.ย. – ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี หมอเถื่อนคลินิกเสริมความงามฉีดยาให้ลูกค้าสาว แต่เกิดแพ้ยาจนเสียชีวิต เพราะประมาท ไม่ตรวจดูก่อนว่าลูกค้าแพ้ยาหรือไม่  


เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายทศพล สว่างจิตร หมอเถื่อน ผู้ต้องหาคดีฉีดยาเสริมเต้าเหยื่อสาว แต่เกิดแพ้ยาจนเสียชีวิต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ น.ส.วรทมล สว่างจิตร หรือ “วราลัญช์ เจริญศรี” จากทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.415/62 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องนายทศพล และ น.ส.วรทมล ในความผิดฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม


วันนี้ ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา โดยเป็นการนัดฟังคำพิพากษาในส่วนของ น.ส.วรทมล จำเลยที่ 2 เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายทศพล จำเลยที่ 1 ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลได้พิพากษาจำคุกฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเวลา 8 ปี และฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเวลา 2 ปี รวม 10 ปี รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงอ่านคำพิพากษาเฉพาะจำเลยที่ 2 ในวันนี้

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ไปพบผู้ตายและสามีผู้ตายที่ห้องเลขที่ 503 แก้ว-สุภาพ อพาร์ทเม้นต์ ซ.รามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เนื่องจากผู้ตายประสงค์จะเสริมหน้าอก ในราคา 30,000 บาท โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ฉีดยาชาเข้าที่ใต้ราวนมซ้ายและขวา ก่อนผู้ตายจะเกิดอาการชักเกร็งในเวลาต่อมา และนำตัวส่งรักษาที่ รพ.รามคำแหง กระทั่งวันที่ 29 มี.ค. 2559 พบว่าผู้ตายเสียชีวิตจากอาการระบบหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด โดยจำเลยได้ชดใช้เงินให้สามีผู้ตาย และตรวจสอบการกระทำของจำเลยทั้งสองแล้วไม่พบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมและใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ


แต่ในส่วนของกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ส่วนความผิดฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการสืบพยานและพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการเตรียมอุปกรณ์ อยู่ในที่เกิดเหตุ และทำการโฆษณาเรื่องการศัลยกรรมให้แก่ลูกค้า ถือเป็นการประกอบเวชกรรม โดยจำเลยที่ 2 ไม่ได้รับใบอนุญาต พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 น.ส.ศุภกร กิ้ง ผู้เสียชีวิต ได้เข้าไปทำศัลยกรรมเสริมเต้ากับผู้ต้องหาทั้งสองคน ที่คลินิกแห่งหนึ่ง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยผู้ต้องหาได้ฉีดยาหรือสาร 2 เข็ม เข้าไปในร่างกายของ น.ส.ศุภกร โดยไม่ตรวจดูว่าแพ้ยาชนิดใด ทำให้ น.ส.ศุภกร เกิดอาการกระตุก ชักเกร็ง กัดฟัน และเสียชีวิตในที่สุด. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ลุ้นคำพิพากษา 2 หมอเถื่อนเสริมเต้านมทำเหยื่อสาวดับ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนถล่ม-ไทยตอนบนอากาศร้อน

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบนอากาศร้อน ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

โรคแอนแทรกซ์

สธ.เฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

หลังมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังตรวจคัดกรองหลายร้อยคน การระบาดในพื้นที่ภาคอีสานรอบนี้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรคเร่งเฝ้าระวังและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ ย้ำพี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจ

ประณามยิงประชาชน

แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามคนร้ายยิงประชาชนเสียชีวิต-สั่งปรับแผนความปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามเหตุยิงประชาชนใน อ.จะแนะ และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนการปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลประชาชน พร้อมประณามการกระทำโหดเหี้ยม