กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ตำรวจ ปคบ.ร่วมกับ สบส. จับหมอเถื่อน ขณะทำหัตถการให้คนไข้ ในคลินิกเสริมความงามย่านสยามสแควร์ เจ้าตัวสารภาพเป็นเซลล์ขายเครื่องมือแพทย์ ใฝ่ฝันอยากเป็นหมอเสริมความงาม ทำมาแล้ว 1 ปี ก่อนถูกจับกุม
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นำหมายศาลแขวงปทุมวันเข้าตรวจค้นสถานบริการแห่งหนึ่งในสยามสแควร์ แขวงปทุมวัน หลังได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสผ่านทางเว็บไซต์ บก.ปคบ. ว่าสถานบริการดังกล่าวมีบุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ทำการรักษาประชาชน
พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นพบนายพูนศักดิ์ กำลังทำการรักษาประชาชนที่มาใช้บริการ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นให้การรับสารภาพมีอาชีพเป็นเซลล์ขายเครื่องมือแพทย์ ไม่ได้จบแพทย์ แต่มีความชอบด้านความงาม และใฝ่ฝันอยากเป็นแค่เสริมความงาม จึงเข้ามาทำงานเป็นแพทย์ที่คลินิก ซึ่งเป็นของญาติในย่านสยามสแควร์ โดยทำมาเป็นเวลา 1 ปี ก่อนถูกจับกุม
ด้าน นพ.ภาณุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า หมอเถื่อนจะมีโทษตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 แล้วยังมีการดำเนินคดีกับสถานพยาบาลที่มีส่วนรู้เห็นในความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปะละเลยให้บุคคลซึ่งมิใช่ผู้ประกอบการวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งได้มีคำสั่งทางปกครองคือให้ปิดสถานพยาบาลดังกล่าวเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังกำชับไปถึงผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกแห่งให้เพิ่มความระมัดระวังและความรอบคอบในการเปิดรับบุคคลและตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนก่อนรับเข้ามาปฏิบัติงานในสถานพยาบาลเพราะหากตรวจพบหมอเถื่อนในสถานพยาบาลใดแล้วผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเช่นเดียวกับหมอเถื่อน
นอกจากนี้ ยังจับกุม น.ส.กัลยา อายุ 37 ปี และ น.ส.จรรยมณฑน์ อายุ 32 ปี หมอกระเป๋าเถื่อนรับสารเติมโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ในคอนโดมิเนียม ซอยวิภาวดี 20 โดยการจับกุมสืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่ามีผู้ใช้ Facebook ชื่อ “WA Janya” ให้บริการฉีดสารเติมเต็มหน้านอกสถานที่ โดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ และโฆษณาว่าฉีดกับพยาบาลสามารถเช็คใบประกอบวิชาชีพได้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบมีการให้บริการจริง แต่เมื่อมีการขอตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ น.ส.กัลยา ได้นำใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมการพยาบาลและการผดุงครรภ์ออกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ โดยสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลแต่อย่างใด จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ บก.ปคบ. ส่วน น.ส.จรรยมณฑน์ พบเป็นคนโฆษณาชวนให้ประชาชนมาใช้บริการ
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย น.ส.กัลยา ถูกแจ้งดำเนินคดีเพิ่ม 3 ข้อหา คือ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 และขายยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510.-สำนักข่าวไทย