การประชุม ABIS 2019 วันแรกประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

เมืองทองธานี 2 พ.ย. – การประชุม ASEAN Business and Investment Summit 2019 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม พร้อมผลักดันความร่วมมือภายในภูมิภาค



นายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน กล่าวว่า การประชุม ASEAN Business and Investment Summit 2019: ABIS 2019 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก คือ การเพิ่มขีดความสามารถของอาเซียนเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Empowering ASEAN 4.0) ในวันแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง โดยสภาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) จะมุ่งเน้นสนับสนุนปัจจัยช่วยการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคภายใต้ 4 เสาหลัก คือ 1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  2. การสร้างความเชื่อมโยงทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการค้า และการลงทุนในอาเซียน 3. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้มีทักษะใหม่และลดปัญหาการว่างงาน และ 4. การผลักดัน MSMEs เข้าถึงนวัตกรรมและแหล่งเงินทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 


ทั้งนี้ ASEAN-BAC Thailand ได้ดำเนินโครงการพิเศษ 2 โครงการ (Legacy Projects) ได้แก่ โครงการ ASEAN Human Empowerment And Development (AHEAD) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพแรงงานและการเพิ่มสมรรถนะของบุคลากรในลักษณะ Upskill / Reskill และ โครงการ National Digital Trade Platform (NDTP) ซึ่งมุ่งเน้นการทำธุรกรรมแบบ end-to-end ในรูปแบบดิจิทัล นอกจากนี้ การประชุม ABIS ครั้งนี้ความหวังที่จะเป็นเวทีสะท้อนมุมมองและวิสัยทัศน์ของภาคเอกชนไปยังผู้นำอาเซียน 10 ประเทศ เพื่อสะท้อนให้ประชาคมโลกทราบว่าอาเซียนพร้อมที่ร่วมมือและก้าวไปพร้อมกัน ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักของอาเซียน คือ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน


นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า อาเซียนมีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อสู้กับธุรกิจจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยการสร้างความร่วมมือผ่านระบบ NSW (National Single Window) ในอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียว และการสร้างระบบ Intra–ASEAN Economic จะเป็นการช่วยส่งเสริมศักยภาพในการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับอาเซียน นอกจากนี้ Online Shopping, Fintech ยังมีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) แต่ละประเทศผ่านระบบ e-Commerce ทั้งนี้ การเติบโตของ e-Commerce ในภูมิภาคอาเซียนมีศักยภาพและมีการขยายตัวสูง โดยปี 2025 ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน จะสร้างการเติบโตให้กับ GDP ของภูมิภาคอาเซียนประมาณหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนสำคัญที่สุดที่จะผลักดันให้ ASEAN ก้าวหน้าต่อไป คือ การพัฒนาบุคลากร ซึ่งแต่ละประเทศควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุค 4IR 

ทั้งนี้ การพัฒนาของอาเซียนจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจ เพื่อสร้างตลาดการแข่งขันใหม่ให้ทัดเทียมกับอียู พร้อมย้ำว่าทุกคนต้องมีความฝัน ทำตามความฝันและเชื่อในความฝันนั้น จึงจะประสบความสำเร็จ

สำหรับการเสวนาเรื่อง “Advancing ASEAN 4.0 in the Global Value Chain” เป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการส่งเสริมภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลก (Global Value Chain) นั้น มองว่าปัจจัยภายนอกที่เป็นความท้าทายของอาเซียน ได้แก่ สงครามการค้าและ Brexit ซึ่งถูกพิจารณาในการประชุม RCEP และการลดอุปสรรค NTMs ส่งผลให้อาเซียนต้องปรับกรอบการพัฒนาอาเซียน 4.0 ให้ครอบคลุมทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตาม อาเซียนจำเป็นต้องพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นให้เหมาะสมกับความต้องการในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ผลักดันให้ภาครัฐและภาคเอกชนมุ่งเน้นการพัฒนาในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจโดยลดข้อจำกัดให้น้อยที่สุด และควรสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคในการก้าวสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลก

ด้านการเสวนาเรื่อง “Next Generation MSME Access to Finance” เป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME)ในยุคแห่งอนาคต ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อจำกัดที่ท้าทายที่สุดสำหรับการเติบโตระยะยาวสำหรับ MSME และธุรกิจเริ่มแรก (Start-Up) ชี้แจงว่าในภูมิภาคอาเซียนที่มีจำนวน MSME เกือบ 80 ล้านราย เป็นสัดส่วน 58% ของ GDP และการเติบโตของ E-Commerce สูงถึง 367% 

สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ได้แก่ การพัฒนาฐานข้อมูลด้านพฤติกรรมทางการเงินของ MSME การปรับวิธีการพิจารณาความเสี่ยงในปัจจุบันในระบบการให้คะแนนเครดิต (Credit Scoring) โดยพัฒนาแนวทางการพิจารณาสินเชื่อ โดยใช้ฐานข้อมูลเป็นหลัก (Information Based Lending) การระดมทุนในรูปแบบใหม่ เช่น Virtual Banking การกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลกับบุคคลผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ผ่านตัวกลาง (P2P Lending) การระดมทุนแบบ Crowd Funding  และอื่น ๆ ในการสนับสนุนธุรกิจ E-Commerce ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตลอดจนแนวทางที่ธนาคารจะทำงานกับตลาด E-Commerce เพื่อจัดหาสภาพคล่อง จัดหาสินเชื่อการค้า รวมถึงบริการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมสร้างความเข้มแข็งแก่ระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ได้มีการร่วมกันพัฒนาและการปรับเปลี่ยนการทำธุรกรรมค้าขายระหว่างประเทศ เป็นจากระบบที่เป็นเอกสารในปัจจุบัน มาเป็นระบบดิจิทัลทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End Regional Digital Trade Transformation) เพื่อความรวดเร็วมากขึ้นและมีต้นทุนที่ถูกลง และจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำการค้าขายระหว่างประเทศ  . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]