อุทัยธานี 31 ต.ค.- ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบถังน้ำที่วัดหนองเข้ จ.อุทัยธานี หลังมีพระลูกวัดและญาติโยมใช้น้ำในถังน้ำ ทั้งอาบ ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วเกิดอาการแพ้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจหาสารปนเปื้อนแล้ว คาดรู้ผลเร็วๆ นี้ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านยืนยันไม่มีเรื่องขัดแย้งกับทางวัด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถังน้ำขนาดใหญ่ทั้งสามใบนี้ สำหรับใช้อุปโภคบริโภคภายในวัดหนองเข้ หลังจากญาติโยมที่มาทำบุญ รวมทั้งพระที่ใช้น้ำจากถังเหล่านี้ เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าอาวาสระบุน้ำมีสารเคมีเจือปน กลิ่นคล้ายยาฆ่ายา
หญิงวัย 53 ปี คนนี้ ช่วยงานวัดหนองเข้มานานกว่า 10 ปี วันเกิดเหตุเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำหญิงของวัด พออาบไปได้ 2 ขัน รู้สึกแสบร้อนตามผิวหนัง จากนั้นจึงไปเอาน้ำที่ใช้ดื่มมาล้างออก แต่ไม่ได้ไปพบหมอทันที กระทั่งเกิดมีตุ่มแผลพุพองขึ้นตามตัว จึงไปหาหมอเพื่อรักษาตัว ซึ่งสอดคล้องกับพระลูกวัดที่ใช้น้ำล้างหน้าแปรงฟัน ปรากฏว่าปากเป็นแผล แสบร้อนทั้งปาก มีอาการแพ้ ถึงขั้นเหยื่อบุตาอักเสบ อยู่วัดมา 20 ปี ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน
ก่อนหน้านี้ วัดหนองเข้ขาดแคลนน้ำใช้อุปโภคบริโภค จึงทำหนังสืออนุเคราะห์ขอรถเจาะบ่อบาดาลจากสมาคมชาวไร่อ้อยอุทัยธานี ดำเนินการเจาะบ่อบาดาลเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนมีน้ำใสสะอาดไว้ใช้ดื่ม แต่ช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคมที่ผ่านมา น้ำมีกลิ่นสารเคมีคล้ายกับยาฆ่าหญ้า เจ้าอาวาสเชื่อเป็นฝีมือผู้ไม่หวังดีที่ถูกขัดผลประโยชน์
ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่ 12 พูดคุยกับชาวบ้านรอบวัด ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่เคยมีปัญหากับพระ มั่นใจว่าชาวบ้านหรือคนในพื้นที่ไม่ได้เข้าไปวางยาฆ่าหญ้าหรือทำอันตรายพระทั้งวัดอย่างแน่นอน
ด้านเจ้าอาวาสวัดหนองเข้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สว่างอารมณ์ แล้ว และมีเจ้าหน้าที่นำตัวอย่างน้ำส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ นครสวรรค์ คาดรู้ผล 5 พฤศจิกายนนี้ หากพบมีสารปนเปื้อนหรือสารเคมีจริง จะต้องสืบสวนหาตัวผู้กระทำต่อไป.-สำนักข่าวไทย