กระบะประกบยิงพ่อค้าหัวปลาดับคารถ

สงขลา 30 ต.ค.-เกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะตามประกบยิงพ่อค้าหัวปลาเสียชีวิตคาพวงมาลัย ขณะที่มีกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ถือปืนลูกซองยาวเข้าประชิดรถ ก่อนกระหน่ำยิงสุดเหี้ยม โดยล่าสุดพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ


ภาพจากกล้องหน้ารถ บันทึกเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน โดยพบคนร้ายขับกระบะ สีขาว ขับปาดหน้ารถของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายจำเป็นต้องจอด จากนั้นคนร้ายคนแรกได้เดินถือปืนลูกซองยาวลงมาหาและอีกคนเดินลงมาสมทบ โดยระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์คนร้าย 1 คนขี่ตามมา ต่อมาจึงมีการยิงกันเกิดขึ้น แต่กล้องไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ตอนยิงได้  ทั้งนี้  ข้อสังเกตจากกล้องหน้ารถพบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุ 3 คน แต่งกายคล้าย อส. ใช้เวลาก่อเหตุ 5 นาทีก่อนหนีไป


ภายหลังเกิดเหตุ ร้อยเวร สภ.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว โดยพบว่าเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านโหนด-ท่านางหอม พื้นที่หมู่ 2  ต.คูเต่า ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ จอดริมถนน  ส่วนท้ายกระบะพบหัวปลาถูกบรรทุกมาเต็มคันรถ ขณะที่กระจกประตูทั้ง 2 ข้างมีรอยถูกยิงจนแตกและยางล้อหลังด้านขวาถูกยิง

ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายดือรอแม สุรง อายุ 33 ปี หรือ “บังแม” เป็นพ่อค้าหัวปลา และเดิมเป็นชาวปัตตานีแต่มามีภรรยาอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านเหนือ ต.คูเก่า สภาพศพถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาวเข้าที่ศีรษะ, แขน, ขา และลำตัว รวม 6 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนลูกซอง 4 ปลอกบนถนนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบถามนางมารียะห์ เขปัน อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตและเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์มาพบเป็นคนแรกบอกว่า ขณะเกิดเหตุสามีกำลังขับรถบรรทุกหัวปลาไปส่งโรงงานปลาป่น ที่ ต.พะวง อ.เมืองสงขลา แต่ระหว่างนั้นได้โทรมาบอกว่า  มีรถกระบะขับตามและยิงยางจนแตก พร้อมบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าขอตรวจปัสสาวะ แต่ผู้ตายไม่ยอมลงและบอกว่ารอให้ตนเองมาก่อน จากนั้นได้ยินเสียงโต้เถียงกันและขาดการติดต่อไป  จึงตัดสินในขี่รถมาดู และพบว่าสามีเสียชีวิตไปแล้ว

ล่าสุดชุดสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดและพบว่าหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ อส. และชุดสืบสวนได้ประสานต้นสังกัดเพื่อให้เข้ามอบตัว ขณะที่จากการสอบพยานแวดล้อมเบื้องต้นทราบว่า อส.พยายามเรียกให้ผู้ตายจอดเพื่อตรวจปัสสาวะ  แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด จึงขับรถไล่ตามและยิงยางรถ จากนั้นได้ขับรถปาดหน้า และลงมายิงซ้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ เพราะพบพิรุธหลายอย่าง เนื่องจากการสอบสวนภรรยาผู้เสียชีวิต พบว่าผู้ตายมีปัญหากับคู่เขยเกี่ยวกับธุรกิจค้าหัวปลา และก่อนหน้านี้ 1 เดือนเพิ่งเกิดเรื่องชกต่อยกับคู่เขย  จนถูกแทงที่หน้าท้องบาดเจ็บและเพิ่งออกจากโรงพยาบาล  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกคู่เขยรายนี้มาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการตายของนายดือรอแม หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ

นายกฯ ขันนอตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ขันน็อตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ ตั้งคำถามเบิกงบฯ แก้น้ำท่วมตั้งแต่ปี 63 สร้างคืบแค่ 5% บอกน้อยมาก พร้อมแจ้ง ครม.รับทราบแผนถก JCR ไทย-กัมพูชา ก.ค.นี้ หวังสางปมคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด เล็งจับมืออาเซียนดึงจุดแข็งแต่ละประเทศ เจรจากำแพงภาษีสหรัฐ

เรียกสอบวิศวกรตึกถล่ม

เริ่มแล้ว! ดีเอสไอ เรียกสอบชุดแรก 10 วิศวกร ตัวแทนอิตาเลียนไทย

เริ่มแล้ว! พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เรียก 10 วิศวกร และตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เข้าให้ปากคำชุดแรก คดีตึก สตง.หลังใหม่ถล่ม

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]