เชียงราย 3 ธ.ค. – ในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ แต่ข้าวไร่ของชาวไทยม้งที่เชียงรายกลับขายได้ราคา เพราะเป็นข้าวไร่ที่ปลูกแบบอินทรีย์ แถมยังผลิตเป็นข้าวสารด้วยการทำมือทุกขั้นตอนตั้งแต่เกี่ยวไปจนถึงการตำด้วยครกตามภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน จนได้ข้าวที่อุดมด้วยวิตามินและเป็นที่ต้องการของตลาด
นาข้าวที่อยู่ในหุบเขาท่ามกลางดอยสูงที่ล้อมรอบหมู่บ้านขุนห้วยแม่เปา ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย เป็นแหล่งปลูกข้าวไร่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวไทยม้งกว่า 50 ครอบครัวมาหลายชั่วอายุคนแล้ว เมื่อข้าวออกรวงเหลืองอร่าม ชาวไทยม้งจะช่วยกันเกี่ยวข้าวโดยใช้หวู อุปกรณ์เกี่ยวข้าวของชาวม้ง ซึ่งเป็นใบมีดเล็กๆ ผูกติดกับไม้ไผ่ ก่อนจะนวดข้าวด้วยเท้าเปล่า เทเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้ใช้ผ้าพัดให้ข้าวเม็ดลีบปลิวออกไป
จากนั้นจึงนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้ลงมายังหมู่บ้าน เพื่อนำข้าวเปลือกมาคั่วในกระทะใบใหญ่ เพื่อไล่ความชื้นประมาณครึ่งชั่วโมง และยังทำให้ข้าวมีความหอมมากขึ้นด้วย ก่อนจะนำข้าวเปลือกคั่วมาตำด้วยครกกระเดื่อง ซึ่งต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก แล้วจึงนำมาฝัดข้าวเอาเปลือกออก จนเหลือข้าวไร่ที่หอมกรุ่นและเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ทุกขั้นตอนในการผลิตข้าวทำด้วยมือตามภูมิปัญญาของชาวไทยม้งที่สืบทอดกันมา
ข้าวไร่คั่วชาวไทยม้งส่วนใหญ่จะเก็บไว้กินเองในครอบครัว เหลือแล้วจึงนำไปขายสร้างรายได้ โดยบรรจุใส่ถุงขายกิโลกรัมละ 50 บาท นำไปวางขายตามตลาดนัดในเชียงราย เป็นปีแรกและเริ่มขายได้ เพราะคนที่ได้ชิมล้วนแต่ติดอกติดใจ รวมไปถึงท่านนายอำเภอพญาเม็งรายด้วย
ข้าวไร่คั่วของชาวไทยม้ง นอกจากรสชาติอร่อยและแปรรูปโดยไม่ใช้เครื่องจักรหรือสารเคมี จึงป็นที่ถูกอกถูกใจของคนรักสุขภาพ แต่เก็บไว้ได้เพียง 3 เดือน ในอนาคตทางอำเภอเตรียมส่งเสริมให้ผลิตเป็นข้าวคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้ และยังจะต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ด้วย. – สำนักข่าวไทย