ไอเอ็มเอฟ หั่นจีดีพีไทยปีนี้เติบโตร้อยละ 2.9 ส่วนปี 63 โตร้อยละ 3

ธปท.25 ต.ค. -ไอเอ็มเอฟคาดจีดีพีไทยปีนี้เติบโตร้อยละ 2.9  ส่วนปี 2563 เติบโตร้อยละ 3 จากผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐ – จีน แนะไทยใช้นโยบายการคลังผนึกการเงิน ประคองเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดลง


นายโจนาธาน ออสทรี รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ออกรายงาน ภาพรวมรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ว่า ไอเอ็มเอฟคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปี 2562 เติบโตร้อยละ 2.9  ซึ่งเป็นการปรับประมาณการณ์ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาที่คาดว่าโตร้อยละ 3.5 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ขณะที่ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3 

อย่างไรก็ตามไอเอ็มเอฟเห็นว่าประเทศไทยสามารถใช้นโยบายการคลังและนโยบายการเงิน เพื่อประคองภาวะเศรษฐกิจไทยไม่ให้ทรุดตัวลง รวมทั้งควรส่งเสริมนโยบายการออมเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ


ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียขยายตัวร้อยละ 5 ในปีนี้และร้อยละ 5.1 ในปี 2563  ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการค้าและการลงทุนชะลอตัวลงมากจากมาตรการกีดกันทางการค้าและความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลกกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต ซึ่งไอเอ็มเอฟเตือนว่า ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก คือ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักชะลอตัวกว่าที่คาด ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ความเสี่ยงจากการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงเร็วกว่าที่คาดไว้  ความตึงเครียดภายในภูมิภาค และความเสี่ยงจากภัยพิบัติธรรมชาติที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามไอเอ็มเอฟแนะให้ประเทศต่างๆ ใช้นโยบายการคลัง การเงิน ที่มีอยู่สนับสนุนการขยายตัวของการบริโภคในประเทศ พร้อมให้ระมัดระวังผลกระทบจากภาวะการเงินโลกที่ผ่อนคลายมากขึ้น จะทำให้เกิดการก่อหนี้มากขึ้นและเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน  ดังนั้นประเทศที่มีความเสี่ยงต้องมีมาตรการลดปัญหาหนี้สินภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ในรายงานของไอเอ็มเอฟยังเป็นห่วงกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มีปริมาณมากเกินไป และมีความผันผวนซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจแก่ประเทศผู้รับ ดังนั้นประเทศต่างๆ ควรมีมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย และมาตรการ Macroprudential ดูแลเสถียรภาพการเงิน . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก