กรอ.พาณิชย์ปรับแผนเจาะตลาดเชิงลึก

นนทบุรี 25 ต.ค. – กรอ.พาณิชย์มั่นใจส่งออกไทยยังไปได้ดี ปรับแผนเจาะตลาดใหม่แบบเชิงลึก ย้ำปีนี้ตัวเลขส่งออกของไทยไม่ติดลบถึงร้อยละ 2-3 แน่



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) มีตัวแทนจากสมาคมผู้แทนการค้าภาคการส่งออก ว่า ภายใต้ปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีน  Brexit และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน ยังเป็นปัจจัยทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวล แต่เชื่อว่าการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือปีนี้ หากสามารถผลักดันส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนเกิน 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งออกไตรมาส 4 น่าจะกลับมาเป็นบวก แม้จะไม่มากก็ตาม ส่งผลภาพรวมการส่งออกปีนี้น่าจะกลับเป็นบวกศูนย์ หากจะติดลบไม่เกินร้อยละ 1 หรือ 1.5  แต่ยืนยันไม่ติดลบร้อยละ 2-3 แน่นอน  สิ่งที่ภาคเอกชนห่วงมากที่สุด คือ การแข็งค่าของเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐดูแลมากขึ้น 


นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำสิ่งที่ต้องทำงานมุ่งไปข้างหน้า เพื่อให้ภาคส่งออกของไทยเติบโตด้วยการรักษาตลาดเก่า เร่งเจาะตลาดใหม่ คือ เดินหน้าสร้างไทยแบรนด์ เร่งส่งเสริมภาคบริการใหม่ ๆ นอกเหนือจากทำตลาดร้านอาหาร  มุ่งเน้นพันธมิตรสร้างเครือข่าย สร้างการรับรู้ส่งออกเอสเอ็มอีมากขึ้น และทูตพาณิชย์เจาะตลาดใหญ่ ๆ เช่น จีน สหรัฐ อินเดีย สิ่งที่วางกรอบบุกตลาดหลังจากนี้  ได้แก่ ตลาดจีน อินเดีย ตุรกี เยอรมนี ศรีลังกา บังกลาเทศ ตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย รวมทั้งอังกฤษและสหภาพยุโรป เป็นต้น เชื่อว่าจากแผนงานดังกล่าวหากทุกฝ่ายร่วมมือจริงจังน่าจะทำให้การส่งออกไทยกลับมาดีขึ้น แม้สงครามการค้าจะทำให้ตลาดทั่วโลกชะลอตัว แต่ยังเชื่อว่าแม้จะเกิดปัญหาดังกล่าวหลายสินค้าไทยยังมีโอกาสเจาะตลาดต่าง ๆ ได้ ดังนั้น จึงคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสสินค้าไทยมากกว่า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย