ตร.คุมคนขับกระบะแหกโค้งชนนิสิต ม.เกษตรฯ สอบปากคำ-แจ้งข้อหา

กทม. 24 ต.ค.-กระบะแหกโค้งชนนิสิต ม.เกษตรฯ ขี่จักรยานยนต์ เจ็บ 5 คน พบรองเท้าแตะขัดใต้เบรก ทำให้เบรกไม่อยู่พุ่งชนใส่ ตำรวจ สน.บางเขน คุมตัวคนขับกระบะคันก่อเหตุไปสอบปากคำและแจ้งข้อหา

นี่เป็นคลิปเหตุการณ์รถกระบะแหกโค้งภายใน ม.เกษตรศาสตร์ พุ่งชนรถจักรยานยนต์นิสิตที่ขับมาในเลนตัวเอง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.40 น.ที่ผ่านมา  โดยตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้ามูลนิธิร่วมกตัญญู


ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุธรรมอารีกุล ฝั่งขาออก มุ่งหน้าถนนวิภาวดี-รังสิต ลักษณะเป็นถนน 2 เลน มีเกาะกลางแบ่งถนนสองฝั่ง ติดกับเคยู อเวนิว พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆอ 8417 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหาย จอดขวางอยู่กลางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นนิสิต 2 คน และบาดเจ็บสาหัส 3 คน เป็นนิสิตผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 2 คน ทราบชื่อนางสาวพิชชาภา พุ่มเหมือน และนางสาว ธมลวรรณ เขตต์สาคร รวมทั้งหมด 5 คน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวิภาวดี จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีรถยนต์ได้รับความเสียหาย 4 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน

จากการตรวจสอบกล้องหน้ารถพบว่านิสิตขับรถจักรยานยนต์ตามกันมาในช่องทางซ้าย โดยนักศึกษาชายขับอยู่คันหน้าสุด และมีนักศึกษาผู้หญิงขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตามมาอีก 2 คัน และมีรถกระบะยี่ห้อมาสด้าขับอยู่ช่องทางขวา ขณะนั้นมีรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามขับมาด้วยความเร็ว แล้วลักษณะหลุดโค้งข้ามมาชนกวาดรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนนักศึกษากระเด็นไปคนละทิศทาง


พลตำรวจตรีพัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า จากการสอบถามนายรัฐวิทย์ ทราบว่าได้ขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังจะมุ่งหน้าไปธนาคารกับเพื่อนสาว ซึ่งปกติจะถอดรองเท้าแตะขับรถ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรองเท้าแตะไปขัดอยู่ที่ตัวเบรกจึงทำให้เบรกไม่ได้

ล่าสุดตำรวจ สน.บางเขน คุมตัวนายรัฐวิทย์ สราวุธวินัย คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ ไปตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่ รพ.ภูมิพล พบว่าเป็น 0 และไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาที่ สน.บางเขน

น.ส.สริสสา พณิชยา นิสิตปี 4 คณะเศรษฐศาสตร์ และ น.ส.ธัญมน จิระพรกุล นิสิตปี 4 คณะเศรษฐศาสตร์ เจ้าของกล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังจะกลับบ้าน สังเกตเห็นความผิดปกติว่ารถกระบะที่พุ่งมานั้นวิ่งสวนเลนมาด้วยความเร็ว จึงชะลอรถเตรียมเบรกไว้ จากนั้นรถก็พุ่งมากวาดรถจักรยานยนต์ของเพื่อนนิสิตที่อยู่ด้านหน้าล้มระเนระนาด ช่วงนั้นคิดว่าต้องไถลมาฟาดรถตนแน่ๆ แต่ยังดีที่รถกระบะหยุดก่อน


สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย ถูกนำไปสอบปากคำที่ สน.บางเขน 4 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลที่หัวเข่า มือ และข้อศอก ส่วนอีก 1 ราย เป็นนิสิตชายที่ขี่จักรยานยนต์อยู่คันหน้าสุด แพทย์ รพ.วิภาราม ให้แอดมิด เนื่องจากกระทบกระเทือนที่ใบหน้าและศีรษะ ตอนนี้ยังมีอาการหน้าบวม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ไปสอบถามเจ้าของร้านขายผลไม้ที่อยู่ในเคยู อเวนิว เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ในช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ตนกำลังจัดผลไม้ อยู่ๆ ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของคนในบริเวณนั้น จึงรีบวิ่งออกไปดู ปรากฏว่าเห็นรถกระบะฟอร์ด พลิกคว่ำ และเห็นนักศึกษานอนกระจัดกระจาย มี 2 คนที่อาการสาหัส มีแผลลึกจนมองเห็นกระดูก ส่วนอีกคนโดนชนกระเด็นจนตัวไปอยู่ใต้ท้องรถยนต์ข้างทาง ตนและพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นรีบเข้าไปช่วยเหลือ และรีบนำร่มมากางให้คนเจ็บ เพราะอากาศร้อนมาก

เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งรุนแรงที่สุด ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ เนื่องจากคนที่ใช้เส้นทางประจำขับรถช้า ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน หากมีเหตุปกติจะถอยชนท้าย เฉี่ยวกันเล็กน้อย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่ดูแลรถเข้าออกอย่างเข้มงวด รวมถึงบนถนนมีลูกระนาด ไม่ให้ขับรถเร็ว จึงแปลกใจว่าทำไมรถคันนี้ขับมาได้เร็วขนาดนี้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ พบนายสุภีร์ มุขมนตรี เล่าว่า ตอนเกิดเหตุกำลังหันหลังโบกรถอยู่ แต่พอได้ยินเสียงที่ดังมากจึงหันมาดู เห็นรถกระบะฟอร์ดกำลังลอยกลางอากาศก่อนจะคว่ำ และมาชนนักศึกษาที่ขี่จักรยานยนต์มา เท่าที่สังเกตเห็นคนขับกระบะ ซักครู่จึงค่อยลงมาโทรศัพท์ แต่ไม่ได้เห็นว่าลงมาดูอาการคนเจ็บหรือไม่ เมื่อเกิดเหตุได้แจ้งวิทยุให้ รปภ.ส่วนกลางมาดูเหตุการณ์ และแจ้งตำรวจให้มาดูเหตุ ยืนยันที่ผ่านมาตรงบริเวณนี้ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเลย เพราะคนที่ใช้ทางนี้ประจำจะรู้ว่าต้องขับในความเร็วแค่ไหน ยอมรับว่าเมื่อได้ยินเสียงรถที่ชน และภาพเหตุการณ์ตรงหน้า จะต้องมีคนเสียชีวิตแน่นอน แต่ดีที่มีแค่คนเจ็บ แม้จะสาหัสก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตัวเองปกติจะต้องไปโบกรถเข้าออกจุดที่รถคว่ำเป็นประจำ แต่วันนี้กลับเลือกอยู่ที่ป้อม จึงถือเป็นโชคดีของตัวเอง รวมทั้งเหตุที่เกิดอยู่ในช่วงเที่ยงที่คนไม่เยอะ รถไม่มาก หากเป็นตอนเช้าหรือเย็น อาจจะเสียหายมากกว่านี้

มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแต่หายแล้ว และให้ปากคำว่าขณะเกิดเหตุมาตามปกติเพื่อไปธนาคาร ใช้ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหยียบเบรกแล้วแต่ไม่ทำงาน ตอนขับรถจะถอดรองเท้า อ้างว่ารองเท้าอาจจะไปติดตรงเบรก ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ แต่ใช้เส้นทางในมหาวิทยาลัยเป็นประจำ เพราะทำงานที่นั่น แต่บริเวณโค้งที่เกิดเหตุไม่ได้ผ่านบ่อย  

เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหา และจะไปเยี่ยมและเยียวยาผู้บาดเจ็บ ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาขับรถประมาท ทำให้มีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงข้อหาเดียว ต้องรอเช็กอาการของคนเจ็บซึ่งมีทั้งหมด 5 ราย สาหัส 2 ราย เจ็บเล็กน้อย 3 ราย และวันนี้ไม่จำเป็นต้องควบคุมตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่เอง และขอโทษกับผู้ได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

ข่าวเที่เกี่ยวข้อง
กระบะแหกโค้งชนนิสิต ม.เกษตรเจ็บ 5

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]