ชิมช้อปใช้เฟส 2 ร้านค้าเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – กรมบัญชีกลางระบุชิมช้อปใช้เฟส 2 ผู้ประกอบการ ร้านค้าเดิม ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ขายสินค้า-บริการต่อเนื่อง ถึง 31 ธ.ค. 62 


นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของมาตรการฯ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการเดินทางและการใช้จ่าย ทำให้มีการกระจายการใช้จ่ายไปยังเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนได้รับประโยชน์มากขึ้น โดยให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน 3 ล้านคน และลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2562 วันละ 2 รอบ เวลา 06.00 น. และ 18.00 น. รอบละ 500,000 คน รวม 1 ล้านคนต่อวัน  และเริ่มต้นใช้สิทธิ์วันที่ 30 ตุลาคม 25 62 สำหรับผู้ลงทะเบียนวันแรก โดยมาตรการชิมช้อปใช้ ระยะที่ 2 ประชาชนสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และร้านค้าสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการได้ถึง 31 ธันวาคม 2562 เช่นกัน

สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ระยะที่ 1 กว่า 177,655 ร้านค้า โดยเป็นร้านค้ารายใหม่ที่ Walk in เข้ามาลงทะเบียน  97,655 ร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีแอปถุงเงินเดิมอยู่แล้วกว่า 50,000 ร้านค้า และร้านค้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC อีกกว่า 30,000 ร้านค้า โดยร้านค้าทั้งหมดที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการระยะที่ 1 ไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่ สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ต่อเนื่อง ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562


อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้โอนเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการระยะที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 9,006.1 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) 8,800 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%)  206.1 ล้านบาท หากจำแนกเป็นประเภท “ชิม” 1,313.4 ล้านบาท ประเภท “ช้อป” 5,007.5 ล้านบาท ประเภท “ใช้”  124  ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป  2,561.1 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง