นักวิชาการมองเผดิมชัยแก้เกมถูกจุดเอาชนะเลือกตั้งซ่อม เขต5 นครปฐม

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.- “สิริพรรณ” มอง ผลเลือกตั้งซ่อม เขต5 นครปฐม “เผดิมชัย” แก้เกมถูกทาง ทวงคืนพื้นที่บ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ แนะอนาคตใหม่ปรับกลยุทธ์ สร้างเครือข่ายทำความเข้าใจกับคนพื้นที่ร่วมกับการใช้โซเชียลมีเดีย 


น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต5 จังหวัดนครปฐม ที่นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา ชนะการเลือกตั้ง ว่า นี่เป็นการแก้เกมของนายเผดิมชัย คนบ้านใหญ่นครปฐม ซึ่งพื้นที่เดิมก็เป็นของตระกูลสะสมทรัพย์มาอย่างยาวนาน หากครั้งนี้นายเผดิมชัย เพลี่ยงพล้ำก็คงไม่สามารถรักษาพื้นที่เขต 5 ของตนเองและพื้นที่ทั้งจังหวัดนครปฐมได้  ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จะเห็นการทุ่มเทกันอย่างสุดตัว และหากมองย้อนไปในการเลือกตั้งปี 2554 นายเผดิมชัย ก็เคยชนะการเลือกตั้งมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นการชนะในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ก็มีความเป็นไปได้ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายอะไรมากนัก 

น.ส.สิริพรรณ กล่าวว่า ส่วนพรรคอนาคตใหม่คงต้องทบทวนเพราะเคยมีการวิเคราะห์กันว่า พื้นที่เขต 5 จังหวัดนครปฐม เป็นพื้นที่เขตเมือง คนได้รับข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย มีเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่ แต่คงต้องกลับมาพิจารณาว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น  ต้องนำประสบการณ์ครั้งนี้ไปปรับใช้


น.ส.สิริพรรณ ยังกล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐมครั้งนี้ คงไม่สามารถฟันธงได้ว่ากระแสของพรรคอนาคตใหม่เริ่มลดลงจนทำให้ไม่สามารถคงเก้าอี้เดิมไว้ได้ ซึ่งตัวแปรที่ต้องนำมาอธิบายร่วมกันคือ การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นการเลือกตั้งที่มีผลถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นกระแสของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  จึงมีผลต่อการเลือกตั้งในครั้งนั้น ที่ต้องอาศัยกระแสของคนที่เป็นหัวหน้าพรรค หรือผู้นำพรรคเพื่อให้คะแนนเสียงของเขตเพิ่มสูงขึ้นมาด้วย แต่การเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้  เป็นการแข่งขันระหว่างตัวบุคคลในพื้นที่ และอาจมีคำถามตามมาว่าพรรคอนาคตใหม่ก็ระดมหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคเพื่อลงพื้นที่หาเสียงบ่อยครั้งจะเป็นตัวชี้ได้หรือไม่ว่ากระแสของอนาคตใหม่ลดลง ก็ยังมองว่าไม่สามารถสรุปไปได้ขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่เจอมรสุมเป็นตำบลกระสุนตกมาโดยตลอด ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยร่วมกัน ที่ทำให้มีผลต่อคะแนนการเลือกตั้งซ่อม

น.ส.สิริพรรณ กล่าวว่า ยังมองว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม เป็นการแก้เกมที่ถูกทางของตระกูลสะสมทรัพย์ และเป็นการสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่านักการเมืองในพื้นที่เดิมรู้จักประชาชนอย่างไร รู้จักเครือข่ายและสามารถใช้สายสัมพันธ์ไปสู่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน  นี่จึงเป็นความท้าทายของการเลือกตั้งซ่อมและการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าวัฒนธรรมหรือสายสัมพันธ์ดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และ โซเชียลมีเดีย จะต่อสู้กันอย่างเข้มข้นและแหลมคมมากขึ้น

ส่วนข้อสงสัยเรื่องการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 23 ต.ค. ซึ่งตรงกับวันพุธ นั้น น.ส.สิริพรรณ บอกว่า การเลือกตั้งวันพุธ อาจเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่มีผลต่อคะแนนและการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ไม่ใช่คำอธิบายทั้งหมด และไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างว่าแพ้การเลือกตั้งเพราะจัดเลือกตั้งวันพุธ  ดังนั้นต้องนำประสบการณ์ที่ผ่านมามาทบทวนด้วย


น.ส.สิริพรรณ กล่าวอีกว่า ผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมระหว่างอันดับหนึ่ง และอันดับสอง มีความห่างพอสมควร นั้น ส่วนตัวมองตั้งแต่แรกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงตัวประกอบในการลงเลือกตั้งซ่อม เพราะ พื้นที่นี้เป็นของนายเผดิมชัย มายาวนานตั้งแต่สมัยอยู่พรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีสิทธิ์ลุ้น ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ก็ถือว่าเป็นเจ้าของเก้าอี้ที่ชนะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อมปรากฏว่า พรรคอนาคตใหม่คะแนนเสียงหายไปเยอะ ส่วนหนึ่งเพราะคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อย อาจเป็นปัจจัยจากการเลือกตั้ง วันพุธ แต่สิ่งที่ต้องถาม คำถามใหญ่คือคนที่เคยลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่เขต5 นครปฐม หายไปไหนเกือบ 10,000 คะแนน เป็นไปได้ที่อาจจะกระจายไปลงคะแนนให้กับนายเผดิมชัย หากนึกย้อนไปการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 62 พรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน เช่น พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเสรีรวมไทย  รวมไปแล้วอีกกว่า 10,000 คะแนน ซึ่งปรากฏว่าคะแนนในส่วนนี้ก็หายไปด้วย

ส่วนพรรคอนาคตใหม่ต้องปรับกลยุทธ์หรือไม่ โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่มีฐานเสียงเดิมเข้มแข็ง รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้น นั้น น.ส.สิริพรรณ กล่าวว่า  พรรคอนาคตใหม่ ต้องปรับกลยุทธ์ ต้องทำความเข้าใจกับเครือข่าย และคนในพื้นที่ให้มากขึ้น การปรับยุทธศาสตร์คิดว่าการใช้โซเชียลมีเดีย และมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนรุ่นใหม่เป็นยุทธศาสตร์หลักและเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ได้ดีกับพรรคอนาคตใหม่ แต่ความสำเร็จอาจจะไม่ล้นหลามเหมือนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาวิเคราะห์ โดยเฉพาะการปรับตัวของกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่เดิม ที่ไม่คิดว่า การใช้โซเชียลมีเดียจะมีประสิทธิภาพมากขนาดนี้ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ต้องใช้ทั้งโซเชียลมีเดียและทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น สร้างเครือข่ายและสายสัมพันธ์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้กันมาเนิ่นนานในการเลือกตั้งไทย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]