fbpx

กรมบัญชีกลาง ขานรับ “ชิมช้อปใช้” เฟสสอง แนะผู้มีสิทธิ์ใช้จ่ายให้ทันภายในกำหนด

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.-กรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมรับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 เน้นย้ำผู้ได้รับสิทธิ์แล้วให้รีบใช้สิทธิ์ตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ร้านค้า ปชช. เตรียมพร้อมสำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการและวางแผนการท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี


นายภูมิศักดิ์  อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีการพิจารณารายละเอียดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 2 (เฟส 2) เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ต.ค.62 ในส่วนของกรมบัญชีกลาง ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมาตรการได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการและมีเม็ดเงินกระจายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งมาตรการ ชิมช้อปใช้ ระยะแรก ในขณะนี้มีร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 177,655 ร้านค้า โดยเป็นร้านค้ารายใหม่ที่ Walk in เข้ามาลงทะเบียน จำนวน 97,655 ร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มี App ถุงเงินเดิมอยู่แล้วกว่า 50,000 ร้านค้า และร้านค้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC อีกกว่า 30,000 ร้านค้า

“สำหรับการโอนเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ข้อมูล ณ วันที่ 18 ต.ค. 62 กรมบัญชีกลางได้โอนเงินให้กับร้านค้าแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 8,676.8 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) จำนวน 8,537.2 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%) จำนวน 139.6 ล้านบาท หากจำแนกเป็นประเภท จะแบ่งเป็นประเภท “ชิม” เป็นเงิน 1,241 ล้านบาท ประเภท “ช้อป” เป็นเงิน 4,847.1 ล้านบาท ประเภท “ใช้” เป็นเงิน 116.4 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป เป็นเงิน 2,472.3 ล้านบาท” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว 


อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ และได้ใช้สิทธิ์วงเงิน 1,000 บาท ใน G-Wallet 1 หมดแล้ว สามารถเติมเงินของตนเองได้ในกระเป๋า G-Wallet 2 โดยสามารถใช้จ่ายเงินได้ทุกร้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้าน ซึ่งการใช้จ่ายใน G-Wallet 2 จะได้รับเงินคืน 15% ของยอดใช้จริง รวมแล้วไม่เกิน 4,500 บาท (จากยอดใช้จ่ายสูงสุด 30,000 บาท) ดังนั้น จึงอยากเน้นย้ำให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์แล้ว ให้รีบไปใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด ส่วนผู้ที่สนใจจะลงทะเบียนในเฟส 2 ขอให้วางแผนการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายเงินให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ และเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด