แพทย์จุฬาฯ เตือนรัฐเตรียมรับผลกระทบแบน 3 สาร

กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – แพทย์จุฬาฯ เตือนทุกฝ่ายศึกษารอบด้าน ก่อนตัดสินใจเรื่องสารเคมี 3 ชนิด แนะใช้ข้อมูลทางวิชาการ พิจารณาผลกระทบ ทางเลือกต่าง ๆ หากจะแบนจริงต้องแน่ใจว่ามีมาตรการรองรับที่ดีเพียงพอ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง ประชาชนหันไปกินอาหารถูก เกิดทุพโภชนาการทั่วประเทศ


รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงปัญหาสารเคมีการเกษตร 3 ชนิด คือ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเสต ซึ่งฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้กำจัดสารเคมี 3 ชนิดนี้ โดยนำเสนอถึงความน่ากลัว ความตาย และความเป็นพิษ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งต้องการใช้ต่อไป จนเกิดการทะเลาะกันรุนแรงในสังคม ดังนั้น รัฐและคณะกรรมการวัตถุอันตรายควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการตัดสินใจเชิงนโยบายมีหลายแนวทาง หากคิดจะแบน จะเกิดผลกระทบอะไร ต่อใครบ้าง และจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ถ้าแบนไปแบบไม่เตรียมมาตรการรองรับให้ดีอาจส่งผลต่อค่าครองชีพ ค่าอาหารการกิน และปริมาณผลผลิตทางการเกษตร 

ทั้งนี้ การจะทำให้ปลอดสารพิษทุกหัวระแหง แต่หากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงผลผลิต เนื่องจากปัจจัยด้านราคาที่แพงขึ้นจนไม่สามารถประทังชีวิตได้ รวมถึงมีปริมาณผลผลิตทางการเกษตรไม่เพียงพอจะเกิดปัญหาทุพโภชนาการ (เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารหรือพลังงานในปริมาณที่ไม่เหมาะสม) คนรายได้น้อยต้องหันไปกินอาหารราคาถูกเน้นให้พลังงาน ซึ่งส่วนใหญ่ปรุงหวานเค็มมัน เป็นโรคเรื้อรังเท่าทวีคูณในอนาคต กรณีที่ภาวะนี้เกิดขึ้น รัฐจะจัดการอย่างไร หลายครั้งที่รัฐประกาศนโยบายต่าง ๆ ด้วยความหวังดี แต่อาจเกิดผลกระทบทางลบตามมา 


รศ.นพ.ธีระ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีข้อมูลทางวิชาการจากต่างประเทศมากมายที่สามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณา หากตัดสินใจแบนต้องแน่ใจว่ามีทางเลือกพร้อมปฏิบัติได้จริง ที่สำคัญหากเกิดผลกระทบต้องมีคนกล้าหาญเพียงพอที่จะแอ่นอกรับผิดชอบ แต่หากจะไม่แบน  ควบคุมการใช้ให้รัดกุมกว่าเดิมก็ต้องแน่ใจว่าจะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรการจัดการผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่หลายฝ่ายกังวล 

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจนโยบายนี้ ขอให้รัฐเข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้จริง ๆ ใช้ข้อมูลทางวิชาการที่เชื่อถือได้ ครอบคลุมมิติต่าง ๆ ทั้งสังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ โปรดอย่าอ้างว่าเป็นฝ่ายบริหารไม่จำเป็นต้องรู้ลึกเรื่องวิชาการ เพราะหากอ้างแบบนั้น ย่อมบ่งชี้ว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายของบ้านเมืองจะเป็นไปตามสิ่งที่ถูกป้อนเข้าหู โดยไม่สามารถรู้ได้เลยว่าที่ป้อนเข้าหูมาจริงเท็จเพียงใดและมีแนวโน้มที่การตัดสินใจนั้น อาจได้รับอิทธิพลจากกิเลสหรือความกลัว มากกว่าเหตุผลและความรู้ รวมทั้งต้องย้อนมองถึงนโยบายในอดีตที่เกิดจากการเล่นด้วยกระแสความกลัว มีอิทธิพลจากข่าวลวงเผยแพร่อย่างมากมายและต่อเนื่อง จนผลของการตัดสินใจนั้นเกิดเป็นผลประโยชน์ต่อใครสักคนสักกลุ่มหรือหลายคนหลายกลุ่ม

“5 วันถัดจากนี้จะถึงวันที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุม จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งสำหรับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะพิจารณาทางเลือกในการตัดสินใจเชิงนโยบายเกี่ยวกับสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากมาย ไม่ใช่แค่ต่อเกษตรกรชาวนาชาวไร่ แต่หมายรวมถึงคนทั้งประเทศในระยะยาว” รศ.นพ.ธีระ กล่าว


ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ไม่ว่ามติคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะออกมาอย่างไร แต่กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายชัดเจนในการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่ปลอดภัย ตลอดจนมีมาตรการต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภคทั้งประเทศ รวมถึงเตรียมมาตรการต่าง ๆ ในการสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจต้องปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรกรรม ทั้งนี้ วันที่ 21 ตุลาคม กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด และไม้ผลขอเข้าพบ เพื่อให้ชะลอการยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ยินดีที่จะรับฟังข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนความเดือดร้อนของเกษตรกร พร้อมชี้แจงว่ากระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการรองรับทุกด้านแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกฯ-องคมนตรี ใน ร.9 ถึงแก่อสัญกรรม

อาลัย “ธานินทร์ กรัยวิเชียร” อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 97 ปี

อุตุฯ เผย 24-25 ก.พ.68 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน-พายุฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. 68 ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก จะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย