รวมพลคนโชคดีทั่วไทย ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเศรษฐีใหม่กันถ้วนหน้า

ภูมิภาค 17 ต.ค.- รวมพลคนโชคดีทั่วไทย ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเศรษฐีใหม่กันถ้วนหน้า ทั้งเจ้าของร้านเขียนป้ายที่ชลบุรี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 20 บาทที่ราชบุรี คุณตาวัย 71 ปี ซื้อลอตเตอรี่ช่วยแม่ค้า สาวรับจ้างกรีดยางชาวชัยภูมิ พยาบาลสาวเมืองโคราช เจ้าของบ้านที่ถูกรถพุ่งชนที่เลย แม่ค้าของชำบุรีรัมย์ และนักท่องเที่ยวสายบุญ 3 คนที่เชียงใหม่ ยอดเงินรวมทุกคนกว่า 84 ล้านบาท


เมื่อเย็นวานนี้ (16 ต.ค.) นายจตุรงค์ ศรีสมบัติไพบูลย์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านพิชิตศิลป์ รับเขียนป้าย ทำป้าย ริมถนนศุขประยูร ในตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เข้าเดินทางบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ว่าตนเองถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ พร้อมโชว์ลอตเตอรี่ งวดที่ 40 ชุดที่ 56-57 หมายเลข 812564 ซึ่งด้านหลังได้สลักชื่อนายจตุรงค์


จากการสอบถามกับนายจตุรงค์ เปิดเผยว่า ซื้อหลายใบ หลายเลข ชอบเสี่ยงโชคอยู่แล้ว และไม่ได้คิดว่าจะซื้อเลขใดเป็นพิเศษ   ตอนบิดายังมีชีวิตอยู่ เคยได้พูดกับตนว่าอยากถูกรางวัลที่ 1 สักงวด แต่ไม่ทันได้ถูกก็มาเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงไหว้รูปพ่อตลอดว่าขอให้สมหวังดังที่พ่อตั้งใจ และก็ถูกรางวัลที่ 1 จริงๆ ตนและครอบครัวดีใจมาก เงินที่ได้จะมอบให้นางจินตนา ศรีสมบัติไพบูลย์ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นแม่ เป็นผู้บริหารเงิน ส่วนตนจะเก็บเอาไว้แค่ 2-3 ล้านบาทเท่านั้น

เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 20 บาทราชบุรี ถูกรางวัลที่ 1 รวย 6 ล้าน


ที่จังหวัดราชบุรี นางกลภัสร์สรณ์ เพ็งเจริญ หรือเจ๊หมู อายุ 44 ปี หรือ เจ๊หมู เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวรักเร่ บ้านโพธิ์ ในตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ดีใจจนร้องไห้ หลังตรวจสลากแล้วโชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1  เลข 812564 จำนวน 1 ใบ กลายเป็นเศรษฐีเพียงข้ามคืน เตรียมรับเงินรางวัล 6 ล้านบาท

เจ๊หมู เปิดเผยว่า ใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก ต้องสู้กับชีวิตมีลูกคนเดียว แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว และเกือบโดนตัดขาซ้ายเพราะโรคประจำตัวและติดเชื้อในกระแสเลือด จนทุกวันนี้ใช้ชีวิตคู่ทุกข์คู่ยากกับสามีเพียงสองคน โดยก่อนหน้าที่จะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 นั้น  เมื่อ 4 วันก่อนมีญาติที่เสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันคนที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตนเองขายอยู่ โดยในฝันบอกว่าให้ไปซื้อบ้านเลขที่ ซึ่งคนที่มาเช่าบ้านได้มาทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของตนและเล่าให้ตนฟัง ตนจึงให้หลานชายวิ่งไปดูบ้านเลขที่หลังดังกล่าว คือบ้านเลขที่ 56/4 ตนจึงนำมาตีเป็นตัวเลข 564 และได้บอกเรื่องนี้ให้ญาติทราบ ซึ่งญาติ ๆ ก็พากันไปหาซื้อเลขดังกล่าว ส่วนตนได้ไปหาซื้อเลข แต่ก็หาไม่ได้ ตนจึงโทรไปหาญาติอีกคนที่อยู่คนละตำบล เพื่อให้หาซื้อเลขดังกล่าวให้ จนญาติที่ตนให้ไปหาซื้อเลข ได้โทรมาบอกว่าได้เลขแล้ว ตนก็รู้สึกโล่งใจว่าหาซื้อได้ 

กระทั่งเมื่อนำลอตเตอรี่มาตรวจดูถูกรางวัลที่ 1 รู้สึกดีใจ และโทรไปบอกญาติๆ ญาติก็ถูกกันหมดแต่ถูกรางวัลอื่น เพราะทุกคนก็ซื้อตามกัน ญาติบอกให้ตนรีบไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก ตนกับสามีจึงรีบไปลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน และหลังจากได้เงินแล้ววางแผนการใช้ชีวิตไว้แล้วกับสามีก็จะคงขายก๋วยเตี๋ยวตามปกติ เพราะรู้จักความลำบาก

ตาวัย 71 ช่วยแม่ค้าซื้อลอตเตอรี่ ถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน

ส่วนที่จังหวัดกาญจนบุรี มีชาวบ้านดวงเฮงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ต.ค.62 หมายเลข 812564 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท 

พ.ต.อ.วันชัย อ่อนละออ ผกก.สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่า ได้มีนายจ้อย เทียนดอนไพร อายุ 71 ปี ชาวอำเภอไทรโยค พร้อมญาติอีก 4 คน เดินทางมาที่ สภ. ด้วยรถยนต์กระบะ สภาพเก่า จึงสอบถามว่าคุณลุงจะมาทำอะไร เพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งคุณลุงได้แจ้งว่าจะมาลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ต.ค.62 จำนวน 2 ใบ จึงได้แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ 

สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ลุงเป็นชาวไร่ในพื้นที่ อ.ไทรโยค ก่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงไม่กี่วัน ได้พบกับแม่ค้ามาเดินขายลอตเตอรี่ จึงซื้อมาจำนวน 2 ใบ คิดแค่เพียงว่าจะช่วยแม่ค้าซื้อไว้เท่านั้น เมื่อผลสลากออกมาจึงทราบว่า สลากที่ซื้อมาถูกรางวัลที่ 1 จึงได้ลงมาลงบันทึกประจำวันไว้ดังกล่าว และแนะนำให้ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย และผู้ไม่หวังดีที่จะเข้ามาหาเพื่อหวังผลประโยชน์จากเงินรางวัลในครั้งนี้

สาวรับจ้างกรีดยางชัยภูมิดวงเฮงรับเงิน 12 ล้าน 

เมื่อวานนี้ นางสาวจำรัส ราชชมพู อายุ 41 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่ที่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เดินทางเข้าแจ้งความบันทึกประจำวันกับ สถานีตำรวจภูธรคลองท่อม จังหวัดกระบี่ หลังทราบว่าตัวเองถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2562 หมายเลข 812564 พร้อมนำสลากกินแบ่งจำนวน 2 ฉบับ มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

นางสาวจำรัส เล่าด้วยอาการตื่นเต้นว่า ตนเป็นคนจังหวัดชัยภูมิ อาชีพทำไร่ และมารับจ้างกรีดยางที่ตำบลพรุดินนา จังหวัดกระบี่  ก่อนที่จะซื้อลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว ตนได้ไปร่วมงานศพญาติที่วัดพรุดินนา ต.พรุดินนา จากนั้นมีเพื่อนๆ ซื้อล็อตเตอรี่จากคนเร่ขายในงานศพคนละหลายใบ และเชียร์ให้ตนซื้อด้วย จึงตัดสินใจซื้อไว้จำนวน 2 ใบ โดยเพื่อนเป็นคนหยิบให้ เป็นเลขท้าย 564 แต่ไม่คิดว่าจะถูกรางวัล จนกระทั่งวันนี้ พอผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลออก ก็ไปตรวจดู ปรากฏว่าถูกเลขท้ายทั้ง 3 ตัว และพอไล่เรียงไป 3 ตัวหน้า ก็พบว่าถูกตรงทุกตัวด้วย รู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล  และรีบนำสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เงินรางวัลที่ได้จะเอาไปสร้างบ้านให้พ่อแม่ที่จังหวัดชัยภูมิ ส่วนหนึ่งนำไปทำบุญ และจะกลับทำไร่ทำสวนเหมือนเดิม

คุณตาเข้าฝันพยาบาลสาวถูกรางวัลที่ 1

คุณตาเข้าฝันบอกเลขเด็ด พยาบาลสาวเมืองโคราชนำไปเสี่ยงโชค ถูกรางวัลที่ 1 รับ  12 ล้าน เตรียมนำเงินทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณตา และสร้างบ้านให้พ่อแม่ 

น.ส.จิตรา บรรดิษฐภักดิ์ อายุ 25 ปี สาวพยาบาลโรงพยาบาลอำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ที่ จำนวน 2 ใบ รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท น.ส.จิตรา เดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.สีคิ้ว ไว้เป็นหลักฐาน ด้วยสีหน้าสุดดีใจ

น.ส.จิตรา เล่าว่า ซื้อสลาก 2 ใบ มาจากพ่อค้าขายเร่ที่มาเสนอขายให้ ในขณะที่ตนเองและแม่เดินทางไปทำบุญออกพรรษาที่วัดใน ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว โดยให้คุณแม่เป็นคนเลือก ซึ่งคุณแม่บอกว่า ฝันเห็นคุณตาที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มาบอกเลขเด็ด คือ 564 จึงเลือกซื้อสลากที่มีเลขท้าย 564 มา 2 ใบ พอทราบผลการออกรางวัล พบว่าตรงกับรางวัลที่ 1 รู้สึกตื่นเต้นและดีใจสุดๆ และรีบนำสลากมาลงบันทึกประจำวัน หลังจากนี้จะนำเงินรางวัล 12 ล้านบาท ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณตา และสร้างบ้านให้พ่อแม่

ซื้อหวยเลขที่บ้านถูกรถชนถูกรางวัลที่ 1 รวยฉับพลัน 12 ล้าน

นายดำรงชัย สอนสุภาพ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 3 บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เกษตรกรชาวสวนยางและเป็นพ่อค้าเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2562 จำนวน 2 ใบ  12 ล้าน นายดำรงชัย พร้อมภรรยา ลูกสาว และญาติ พากันเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจ สภ.วังสะพุง เพื่อเป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากฯ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายดำรงชัย  เศรษฐีใหม่ของหมู่บ้านนาหนองบง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเพื่อนบ้านและญาติมิตรมาร่วมแสดงความยินดี นายดำรงชัย เล่าว่า ตนมีอาชีพทำสวนยางและเดินขายสลากอยู่ที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 23  กันยายน 2562  เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตนกับครอบครัวกำลังนั่งประทานอาหารอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็มีรถกระบะมาพุ่งชนหน้าบ้านพังยับเยิน รวมทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านก็ได้รับความเสียหายด้วย  ถึงขณะนี้ก็ยังซ่อมบ้านไม่เสร็จ คนที่ขับรถมาชนก็ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายใดๆ จึงควักเงินซ่อมแซมบ้านด้วยตนเอง 

จากนั้นก็นำบ้านเลขที่ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล  โดยตามซื้อมาแล้ว 2 งวด จนถูกรางวัล ก็แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ต้องให้ลูกสาวและภรรยามาตรวจซ้ำอีกหลายครั้งจนแน่ใจ ก็รู้สึกดีใจมาก จะได้มีเงินมาซ่อมแซมบ้านและเหลือเก็บไว้ให้ลูกสาวเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้คนเล็กเรียนอยู่ชั้น ม.1 ส่วนคนโตอยู่ชั้น ม.5

แม่ค้าขายของชำฝันจับปลาได้เต็มรถ ถูกรางวัลที่ 1 พ่วงเลขท้าย 3 ตัว

แม่ค้าขายของชำสุดเฮง ฝันว่าจับปลาได้เต็มคันรถ รุ่งเช้าไปซื้อลอตเตอรี่ ถูกรางวัลที่ 1 และเลขท้าย 3 ตัว รับเงินรางวัล 6 ล้าน กับอีก 4,000 บาท เจ้าตัวเผยจะนำไปใช้หนี้ ปรับปรุงร้านขายของ ที่เหลือแจกลูกหลานและเก็บไว้ใช้ส่วนตัว

นางทองย้อย ขันนาค อายุ 64 ปี แม่ค้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งใน ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ต.ค.62 หมายเลข 812564 จำนวน 1 ใบ และยังถูกเลขท้าย 3 ตัวอีก 1 บาท ได้รับเงินรางวัล 6 ล้าน กับ 4,000 บาท มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างมาร่วมแสดงความยินดีที่ร้านเป็นจำนวนมาก ขณะที่นางทองย้อย ก็อยู่ในอาการดีใจ ที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 และยังถูกเลขท้าย 3 ตัวอีก

นางทองย้อย เล่าว่า ก่อนวันหวยออก ฝันว่าได้ไปจับปลาช่อนกับสามี เก็บใส่รถกระบะจนเต็มคันรถ พอรุ่งเช้ามีพ่อค้าลอตเตอรี่มาเดินเร่ขายที่หน้าร้าน จึงเสี่ยงโชคซื้อไว้จำนวน 3 ใบ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะเคยซื้อหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยถูกรางวัล จนกระทั่งมีการออกรางวัลเสร็จสิ้น จึงนำลอตเตอรี่ที่ซื้อไว้ออกมาตรวจดู พบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ และถูกเลขท้าย 3 ตัว หมายเลข 598 อีก 1 ใบ รู้สึกดีใจมากทำอะไรไม่ถูก เงินรางวัลที่ได้ เบื้องต้นก็จะนำไปใช้หนี้และไถ่ถอนบ้านที่ติดจำนองไว้ ที่เหลือก็เก็บไว้ทำบุญ ปรับปรุงร้านขายของชำ แบ่งให้ลูกหลาน และเก็บไว้ใช้ส่วนตัวในบั้นปลายชีวิตด้วย

นักท่องเที่ยวสายบุญ 3 คน ถูกรางวัลที่ 1 คนละใบ

3 นักท่องเที่ยว สุดเฮง เที่ยวแวะไปทำบุญที่วัดป่าดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่ แวะซื้อหวยชุด นำมาแบ่งกันคนละใบ ถูกรางวัลที่ 1

นายวิทยา นวลละออง อายุ 40 ปี พร้อมกับ น.ส.ธนวรรณ ชูหลำ และนางจุฑามาศ ปะถานะ เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่ เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกรางวัลทที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2562 งวดที่ 39 ชุดที่ 18 หมายเลข 812564 จำนวน 3 ใบ เป็นเงิน 18 ล้านบาท ซึ่งก็สร้างความดีใจเป็นอย่างมาก โดยทั้งสามคนเป็นนักท่องเที่ยว เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี มาเที่ยวที่เชียงใหม่ ตระเวนไหว้พระตามวัดต่างๆ และได้ไปไหว้พระที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดจากแม่ค้า 3 ใบ นำมาแบ่งกันคนละใบ หวังจะได้รับโชค จนกระทั่งช่วงเย็นเมื่อวานนี้ นำไปตรวจ พบว่าถูกรางวัลที่ 1 ดีใจเป็นอย่างมาก จนบอกความรู้สึกไม่ถูก จึงพากันนำมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน มีข้อมูลด้วยว่าสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลเป็นเลขชุด มีทั้งหมด 5 ใบ นักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ซื้อไป 3 ใบ ส่วนอีก 2 ใบ คาดว่าน่าจะมีคนมีในพื้นที่ซื้อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]