สธ.ลุยให้ข้อมูลประชาชน 6วันที่เหลือ ก่อนประชุมแบน 3 สารเคมี

สธ.16 ต.ค.–สธ.ไล่ฟ้องคนแอบอ้างผู้บริหาร สธ.หนุนสารเคมี อ้างโลโก้กระทรวงฯการันตี 3 สารเคมีปลอดภัย พร้อมเดินหน้า 6 วันที่เหลือก่อนประชุม 22 ต.ค.62 แบน 3 สารเคมีให้ตกอยู่ในกลุ่มวัตถุอันตรายประเภท 4 ทำข้อมูลให้ประชาชนและคณะกรรมการวัตถุอันตราย รู้เท่าทัน ทั้งทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ ก่อมะเร็ง อัลไซเมอร์ และเด็กสมาธิสั้น  สารเคมีตกค้างได้ถึงในรกเด็ก 



นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงผลการหารือคณะกรรมการรณรงค์และขับเคลื่อนเพื่อยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตร ที่มีอันตรายต่อสุขภาพ   ซึ่งใช้เวลาหารือ นานกว่า 2 ชั่วโมง 


โดย นพ.มล.สมชาย กล่าวว่า เนื่องจากการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีผู้แทนจากหลายกระทรวงเข้าร่วมจะพิจารณาให้ 3 สารเคมี พาราควอต ,ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพรีฟอส  เป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4  ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ทางคณะกรรมการรณรงค์และขับเคลื่อนฯ เห็นว่า ระยะอีก 6 วันก่อนการพิจารณา จะเร่งทำข้อมูลด้านสุขภาพ ที่มีผลกระทบจากสารเคมีทั้ง 3 ชนิดสื่อสารให้ประชาชนรู้ทุกวัน และนำข้อมูลเหล่านี้ ส่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 22 ต.ค.นี้ด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจ  พร้อมเรียกร้องให้โหวตแบน 3 สารเคมีอย่างเปิดเผย  ซึ่งถือเป็นมาตรการระยะสั้นก่อนการประชุม 

ขณะเดียวกันให้ทีมกฎหมายกระทรวงสาธารณสุข รวบรวมพยานหลักฐานการนำโลโก้กระทรวงสาธารณสุขและข้อมูลที่นำภาพหรือข้อความเกี่ยวกับ 2 อธิบดีทั้งกรมควบคุมโรคและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไปแอบอ้าง ว่า ให้การสนับสนุนหรือการันตีว่า 3 สารเคมีปลอดภัยไม่มีอันตราย ซึ่งถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  เนื่องจากมีการแอบอ้างข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับตัวบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้แจ้งความไปตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา  เพราะในความเป็นจริงเรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากการแบน 3 สารเคมีเป็นนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 

ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข เป็นผลการศึกษาวิจัยร่วมกับต่างประเทศ ซึ่งตรงกับทั่วโลก แน่ชัดว่า ผลกระทบจากสารเคมีทั้ง 3 สาร ปะปนอยู่ในห่วงโซ่อาหาร ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ทั้งภูมิคุ้มกันต่ำ มะเร็ง โรคทางสมองที่รักษาไม่หายขาด แบบเฉียบพลันก็มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ  โดยพาราควอต อันตรายอันดับ 1 รองลงมาไกลโฟเซต แม้รับเพียงแค่ 200 มิลลิมิตรก็ทำให้เป็นโรคอัลไซเมอร์แบบเฉียบพลัน  ส่วนคลอร์ไพรีฟอส ทำให้ หายใจติดขัด ระบบอื่นในร่างกายผิดปกติ  


ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบในรกเด็ก น้ำคร่าและขี้เทา พบว่ามีสารเคมี 3 สารนี้ตกอยู่ค้าง ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาล่าช้า สมาธิสั้น   

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการแบน 3 สารเคมี เป็นการปกป้องเกษตรกร ป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายจากสารเคมี แม้ว่าจะถูกโจมตีว่า กรณีมีการนำสารเคมีไปใช้ฆ่าตัวตาย ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ ในทางการแพทย์แม้จะใช้ลักษณะใดก็ไม่สมควรเสียชีวิต เพราะจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ตุลาคม ปี2561–กรกฎาคม ปี2562 มีคนเสียชีวิตจากสารเคมีที่ใช้ในประเทศ ที่มีมากว่า 280 ชนิด รวม  406 คน และมีอัตราป่วยเข้า รพ.มากกว่า 15,000 คน ยิ่งหากใช้ทั้ง 3 สารรวมกันก็ยิ่งอันตราย เป็นเท่าตัว 

นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ขอถามกลับกลุ่มคนที่เห็นต่างเกี่ยวกับการแบน 3 สารเคมีว่านำข้อมูลจากห้องปฏิบัติการที่ไหนมาอ้างเพราะห้อง ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของกรมวิทย์ฯ ตรวจสอบได้ถึง 500–600 ชนิด แต่ห้องปฏิบัติการที่กลุ่มเห็นต่างอ้างว่าตรวจได้ และได้รับการรับรองจากกรมวิทย์ฯนั้น โดยเป็นห้องปฏิบัติการในพื้นที่ ก็อยากให้อธิบดีกรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ว่าเคยมีการรับรองห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์จริงหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมชมจุดเจาะน้ำบาดาล พร้อมดื่มน้ำแร่เลาขวัญ

กาญจนบุรี 9 มิ.ย.-นายกฯ ตรวจราชการ เยี่ยมชม 2 โครงการน้ำบาลแก้ภัยแล้ง จ.กาญจบุรี เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและทั่วถึง เตรียมใช้งบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำ เผยรอยยิ้มของคนกาญจนบุรีเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง โดยจุดแรก ที่บ้านปากชัดหนองบัว ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ. กาญจนบุรี โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกฯ นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเตรียมที่จะมีโครงการเสนอของบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหมวดโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 12 โครงการ 3,194 รายการงบประมาณทั้งสิ้น 14,859 ล้านบาท โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 563,239 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 134,620 ไร่ และจะเกิดการจ้างงาน 29,214 คนรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 211.46 ลูกบาศก์เมตรต่อปี […]

“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชาถอย เป็นความสำเร็จเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” ชี้กัมพูชายอมถอย เป็นความสำเร็จจากการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” และพูดคุยในทุกระดับ โยน กองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลาย ย้ำถก JBC ยึดกรอบเดิม ไม่มีคุยปม 3 ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงครามมันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติ โดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติ จึงต้องพูดคุยกันใหม่ […]

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย