แพทย์รามาฯ–วิศวะ ม.มหิดล ร่วมผลิต ‘แพทย์นวัตกร’ ครั้งแรกในไทย

รพ.รามาฯ 15ต.ค.-โครงการร่วม ‘หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต-วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์’  ตอบโจทย์ยุคดิสรัพชั่น เปิดตัวหลักสูตรร่วมแพทย์–วิศวะ (พ.บ.-วศ.ม.) เรียน 3-1-3 ปี 2 ปริญญา ผลักดันไทยสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคต ตอบรับเป้าหมายเมดิคัลฮับและนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ใน EEC




นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความสำคัญและความร่วมมือในการจัดตั้งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต-วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ว่า เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากแนวโน้มการนำดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แพทย์จึงจำเป็นต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นอก จากความรู้ด้านการแพทย์ที่ดีแล้ว ทักษะและความเข้าใจด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแพทย์ยุคใหม่ อีกทั้งคนรุ่นใหม่มีความสามารถและความสนใจทั้งในด้านการแพทย์และวิศวกรรม ดังนั้น หลักสูตรร่วมแพทย์–วิศวะ (พ.บ.-วศ. ม.) จะช่วยดึงศักยภาพและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ในการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ จากความรู้ทางด้านแพทย์และวิศวกรรม

‘จุดเด่นของหลักสูตรร่วมแพทย์–วิศวะ (พ.บ. – วศ. ม.) นักศึกษาจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางการแพทย์และความรู้ทักษะพื้นฐานทางวิศวกรรม ได้รับประสบการณ์ในการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ร่วมกับนักวิจัยและอาจารย์ทั้งในคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 7 ปี ปีที่ 1-3 มีการเรียนการสอนทางด้านพรีคลินิกเช่นเดียวกับหลักสูตรแพทย์ปกติ ในชั้นปีที่4 จะเป็นช่วงของการพัฒนาทักษะด้านวิศวกรรมและลงมือพัฒนางานวิจัยหรือนวัตกรรม หลักจากนั้นในปีที่ 5 – 7 จึงกลับมาเรียนชั้นคลินิกเช่นเดียวกับหลักสูตรแพทย์ปกติ พร้อมทั้งทดลองและต่อยอดนวัตกรรมที่ได้พัฒนาขึ้นในช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน’ นพ.ปิยะมิตร กล่าว  

นพ.ปิยะมิตร กล่าวต่อไปว่า เมื่อจบการศึกษาสามารถทำงานเป็นแพทย์ที่เป็นได้มากกว่าแพทย์ โดยมองเห็นปัญหาและโอกาสในการแก้ปัญหาด้วยหลักการทางวิศวกรรม มีการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบมากขึ้น เป็น “แพทย์นวัตกร”ที่ได้รับการปูพื้นฐานพร้อมจะต่อยอดเพื่อพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มีโอกาสสูงขึ้นในการได้รับเลือกให้เรียนต่อเฉพาะทางหรือหลักสูตรปริญญาเอก  ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานวิจัยและผลงานตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ


ด้าน ผศ.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงรูปแบบการเรียนทางด้านวิศวกรรมและความเชื่อมโยงทางด้านการแพทย์ ว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้รับยกย่องว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีต่อประชาชน ขณะที่ไทยกำลังก้าวเป็นสังคมสูงวัย อีกทั้งการเติบโตของบริการสุขภาพการแพทย์และแนวโน้มเฮลท์เทค ในแต่ละปีมีชาวต่างชาติที่เดินทางมาใช้บริการรักษา พยาบาลในประเทศไทย จำนวน 1.05 ล้านคนต่อปี หากรวมผู้ติดตามด้วยจะมีจำนวนเป็น 3 ล้านคนต่อปี หลักสูตรร่วมแพทย์–วิศวะ(พ.บ.-วศ. ม.) จะเป็นอีกพลังในการสร้างคนที่จะร่วมสร้างประเทศฐานนวัตกรรม นำมาซึ่งสุขภาพดี คุณภาพชีวิตและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ และภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีประชากร 650 ล้านคน

สำหรับการเรียนในรายวิชาด้านวิศวกรรม ผ่านหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering)   ในการสร้างแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาและมีความรู้ความเข้าใจด้านวิศวกรรม ทำให้สามารถมองเห็นปัญหาและโอกาสในการแก้ปัญหา     รวมทั้งสร้างนวัตกรรมให้เชื่อมโยงกับวิศวกรชีวการแพทย์ได้จะเป็นลักษณะ Project Based Learning (PBL) โดยเน้นการทำ Project เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและการลงมือปฏิบัติจริง ให้เกิดทักษะการทำงานวิจัย เกิดกระบวนการคิด การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ  มุ่งส่งเสริมให้มีการทำงานวิจัย นวัตกรรม การตีพิมพ์ผลงานระดับนานาชาติในวารสารวิชาการต่างประเทศ ผ่านการทำวิทยานิพนธ์ ภายใต้การดูแลจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกแนวทางการทำวิจัยในด้านต่างๆได้ เช่น วิศวกรรมเนื้อเยื่อและระบบส่งยา ชีวสัญญาณและการประมวลผลภาพ วิศวกรรมฟื้นฟูอวัยวะประดิษฐ์ อุปกรณ์รับรู้ทางชีวภาพและอุปกรณ์ชีวการแพทย์ การคำนวณขั้นสูงทางการแพทย์ รวมทั้งหุ่นยนต์และศัลยกรรมบูรณาการคอมพิวเตอร์ 

ทั้งนี้ เชื่อว่าโครงการหลักสูตรร่วมแพทย์–วิศวะ (พ.บ.-วศ. ม.) จะสามารถผลิต “แพทย์นวัตกร” บุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพในการทำงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง และสร้างคุณประโยชน์ให้แก่วงการสาธารณสุขไทยและประชาคมโลกได้เป็นอย่างดี 

สำหรับการสมัครเข้าศึกษา พ.บ. – วศ. ม. รับสมัครโดยวิธีรับตรงผ่านระบบ TCAS รอบ Portfolio ของ ทปอ. เริ่มปีการศึกษา 2563 หรือTCAS เดือนธันวาคม 2562  โดยพิจารณาคัดเลือกโดยดูจาก Portfolio โครงงานวิทยาศาสตร์  ดีเด่น /ความเชี่ยวชาญ ภาษาอังกฤษ  และสัมภาษณ์แบบ Multiple Mini Interview (MMI)  รับนักศึกษาจำนวน 20 คนต่อปีการศึกษา โดยเป็นการรับตรงในรอบที่ 1 แฟ้มสะสมผลงาน มีการรับนักศึกษาแยกจากหลักสูตรแพทย์ปกติอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พ.ย.จะมีการเปิดบ้านหรือ Open house ให้นักเรียนที่สนใจ หารายละเอียดได้ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ หรือดูที่หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต-วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ได้ทางลิ้งค์ https://med.mahidol.ac.th/meded/th/Course_2  และ Facebook Fanpage: RAMA By D .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]