กรุงเทพฯ 15 ต.ค. – กรมบัญชีกลางร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) บูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ จัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน เพื่อเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง โดยจะสามารถจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิของ อปท. ทั้ง 76 จังหวัด จำนวน 7,774 แห่ง ได้พร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมกราคม 2563
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล โดยนำร่องจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิโดยตรงใน จ.สิงห์บุรี เมื่อเดือนสิงหาคมและกันยายน 2562
“ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำลังดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูล เบี้ยยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและตรวจสอบความถูกต้องของฐานข้อมูลบุคคลของ อปท. จำนวน 7,774 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) ของกรมบัญชีกลางให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมของระบบไว้รองรับการจ่ายเงินดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการของ อปท. ครบทั้ง 76 จังหวัด จำนวน 7,774 แห่ง ในเดือนมกราคม 2563 โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิโดยตรง ซึ่งการจ่ายเงินดังกล่าว จะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น ๆ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว
ทั้งนี้ การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้มีสิทธิจะได้รับเงินรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น . – สำนักข่าวไทย