กรุงเทพฯ 13 ค.ค.-บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ระบุค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วงปลายสัปดาห์หลัง ธปท.ส่งสัญญาณเตรียมออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท
ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์หน้าประเมินไว้ที่ 30.25-30.55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปสถานการณ์ค่าเงินบาทว่า กลับมาอ่อนค่าช่วงปลายสัปดาห์
หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีที่ 30.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
ท่ามกลางความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นการเจรจาการค้า
และระหว่างสหภาพยุโรปและอังกฤษในเรื่องรายละเอียดของข้อตกลง BREXIT อย่างไรก็ดี
เงินบาทลดช่วงบวกดังกล่าวลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ส่งสัญญาณเตรียมจะออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทใน 1-2 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้
แรงหนุนสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นรับความคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
ก็อาจเป็นอีกปัจจัยกดดันของเงินบาทด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.)
เงินบาทอยู่ที่ 30.41 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 30.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ก่อนหน้า
(4 ต.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (14-18 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่
30.25-30.55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยสำคัญที่ตลาดรอติดตาม ได้แก่
ความคืบหน้าหลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทางออกของเรื่อง BREXIT ผลการประชุม EU
summit รวมถึงสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ
จากถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก
ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือนตุลาคม
ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายน
ตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมและรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกันยายน.
ของจีนด้วย. – สำนักข่าวไทย