เชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

กรมประชาสัมพันธ์11 ต.ค. -รัฐบาลเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก และเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จชมพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และคณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร่วมแถลงข่าวภาพรวมการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องครบถ้วนในทุกเรื่อง และมีส่วนร่วมเฝ้ารับเสด็จและชื่นชมพระบารมีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตามแบบโบราณราชประเพณีที่มีหนึ่งเดียวในโลก 


นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภารกิจของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ดำเนินการใน3 เรื่องหลักๆ คือ การให้ข้อมูลในทุกเรื่อง ทั้งการอำนวยความสะดวก จุดรับเสด็จ การจัดโรงครัวพระราชทาน จุดจัดรถรับส่ง การดูแลสุขภาพ การประชาสัมพันธ์ในประเทศ และต่างประทศ สำหรับในประทศ จะเน้นให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร มาร่วมงานได้อย่างถูกต้องหรือรับชมทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ต่างประทศ จะประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนไทยที่อยู่ทั่วโลกได้ร่วมชมพร้อมกัน ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ผ่านช่องทางของสถานทูตไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ ทางเว็ปไซต์www.phralan.in.th และเฟซบุ๊ก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช2562 

สำหรับการถ่ายสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และถ่ายทอดทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ เริ่มเวลา15.15 น. จนเสร็จพระราชพิธี โดยยึดพระราชกระแสรับสั่งของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทาน ให้บรรยายในสิ่งที่จำเป็น ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนได้รับอรรถรสครบถ้วนทั้งภาพและเสียง โดยจะจัดเจ้าหน้าเพื่อลงไปบันทึกภาพกำลังผลฝีพาย และเสียงเห่เรือ ในขบวนเรือ เพื่อให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดเสมือนอยู่ในพระราชพิธีจริง 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมพิธี  เน้นย้ำข้อห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไม่ประสงค์ให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนจากพระราชพิธี ขอให้อำนวยความสะดวกและเอาใจใส่ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธี 


ด้านนางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาระกิจส่วนแรกของกทม.คือ จัดพื้นที่สำหรับประชาชน ปรับภูมิทัศน์ ถนน และประดับตกแต่งริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับสวนสาธารณะ อาทิ สวนสันติชัยปราการ สะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินตลอดเส้นทาง คาดจะแล้วเสร้จ22-23 ตุลาคมนี้ รวมทั้งติดตั้งไฟประดับถนน และสะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร้จภายใน 15ตุลาคมนี้ รวมถึงกทม.ได้จัดเตรียมธงประดับตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงธงโบกให้กับประชาชนในวันพระราชพิธี และมีการจัดเก็บขยะมูลฝอย วัชพืชในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดมเรือ130ลำ เจ้าหน้า150 คนจัดเก็บขยะทุกวันจนถึงวันพระราชพิธี และได้รับความร่วมมือจากขสทบ.จัดเก็บผักตบชวา ตั้งแต่สะพานพระราม7ถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า สำหรับการให้บริการห้องน้ำ ได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่และจุดตั้งห้องสุขาชั่วคราวรวมถึงประสานห้างร้าน บ้านเรือนในย่านนั้น ให้บริการประชาชน โดยจะมีสติกเกอร์แปะไว้ว่าร้านนี้ให้บริการห้องน้ำประชาชน. 

นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมอัฒจันทร์ตามจุดต่างๆไว้ให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จ รองรับได้ทั้งหมด10,700 คน รวมถึงเตรียมสถานที่สำหรับชมขบวนเรือและรับเสด็จ รองรับประชาชนได้ประมาณ 40,000 คน แบ่งเป็น ชมชุนริมน้ำเจ้าพระยา รองรับได้1,000คน หน่วยงานราชการริมแม่น้ำอาทิ ม.ธรรมศาสตร์ กรมอู่ทหารเรือ รองรับได้4,000 คน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา4,000 คน สวนสาธารณะ13 จุด รองรับได้15,600 คน เช่นใต้สะพานพระราม8 สวนสันติชัยปราการ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สวนสามพระยา เป็นต้น พื้นที่เอกชน รองรับได้6,000 คน ขณะเดียวกัน กทม.ได้ดำเนินการสร้างแท่นเจริญพระพุทธมนต์ให้กับทั้ง6วัด เพื่อประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ขณะขบวนเรือเคลื่อนผ่าน เช่น วัดราชาธิวาส วัดเทวราชกุญชร วัดสามพระยา วัดบวรมงคล วัดคฤหบดีและ วัดระฆังโฆษิตาราม

สำหรับการติดตั้งจอแอลอีดี ได้ดำเนินเรียยร้อยแล้ว ทั้ง20 จุด 28 จอเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และการตั้งโรงครัวพระราชทาน ทั้ง 7 จุด ซึ่งกทม.รับผิดชอบในส่วนของจุดวัดอมรคีรี และริมคลองหลอดวัดราชนัดดา  พลเรือโท จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า การจัดขบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้มี52 ลำ ใช้กำลังพลฝีพาย2,200 นาย ระยะทาง3.4 กิโลเมตร จากท่าวาสุกรี ไปท่าราชวรดิฐ การซ้อมย่อย10 ครั้งที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีทั้งการฝึกพายบนบก พายในน้ำ ฝึกในพื้นที่จริง และซ้อมย่อยขบวนเต็มเส้นทาง การซ้อมย่อยแต่ละครั้งมีอุปสรรค์ทางธรรมชาติ ทำให้ฝีพายมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา โดยแต่ละครั้งมีการประสานกทม. กรมเจ้าท่า กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อมาประมวลข้อมูลให้ข้อมูลกับนายเรือเสมือน จึงไม่มีปัญหา 

สำหรับการซ้อมครั้งต่อไป วันที่17 ตุลาคมและ21 ตุลาคม คือ การซ้อมใหญ่ การแต่งกายเสมือนจริง ประดับตกแต่งเรือเสมือนจริงทั้งหมด เพื่อได้รับรู้อุปสรรค์เพื่อให้วันจริงออกมาสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ยัง มีการจัดนิทรรศการที่ไอคอนสยามถึง31ตุลาคม จะได้รับรู้ความเป็นมาของเรือ พระราชพิธีทั้งหมด ก่อนชมพระราชพิธีจริง 

ด้าน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ตำรวจ กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกประชาชนในต่างจังหวัดที่จะการเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี โดยมีรถไฟขบวนพิเศษเพิ่มโบกี้เข้ากรุงเทพมหาราชการ โดยมีจุดบริการ 4 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันตก จ.นครปฐม ทิศเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา และทิศใต้ จ.สมุทรสาคร โดยให้บริการฟรี เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ มีรถชัตเตอร์บัสบริการประชาชนเข้าพื้นที่พระราชพิธี จุดรับ-ส่งชัตเตอร์บัส มี6 โซน โซนที่ 1 มทร.พระนครและใต้สะพานพระราม 8ฝั่งพระนคร โซน2 ลานจอดรถกองสลาก ,สนามหลวงฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร โซน 3 แยกท่าเตียน โซน 4 ถนนอรุณอมรินทร์ 36 ใต้สะพานพระราม8 โซน 5 สถานีรถไฟธนบุรี และโซน 6 วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร 

สำหรับจุดจอดรถรอบนอกและกรุงเทพฯ ชั้นกลาง จัดเตรียมพื้นที่รวม 24 จุด รองรับได้ 26,000 คัน ทิศเหนือ เมืองทองธานี ,ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ,ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และสโมสรตำรวจ ทิศใต้ ลานพุทธมณฑล สาย 5 ,เซ็นทรัลศาลายา,เซ็นทรัลพระราม 2 ,ร.ร.บางมดวิทยา และวิทยาลัยทองสุข ทิศตะวันออก พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ,เมกะบางนา ,อีเกียบางนา และไบเทคบางนา ทิศตะวันตก เซ็นทรัลเวสต์เกต และอาคารจอดรถบางรักน้อยท่าอิฐ ขณะที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง ประชาชนจอดรถได้ที่อู่จอดรถบรมราชชนนี ,สำนักงานอัยการสูงสุด ,ศาลอาญารัชดา ,อาคารจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา,ลานจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา ,สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์,แอร์พอร์ตลิ้งค์มักกะสัน,ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 และท่าเรือคลองเตย 

ประชาชนที่จะเข้าชมขบวนเรือจะต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อผ่านจุดคัดกรอง รวม 15 จุดคัดกรอง ได้แก่ มทร.พระนคร ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร พิพิธบางลำพู ทางเข้าม.ธรรมศาสตร์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม สนามหลวง ด้านม.ธรรมศาสตร์ สนามหลวงด้านศาลฎีกา ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ท่ามหาราช ท่าช้าง แยกท่าเตียน หน้าวังสราญรมย์ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี ทางเข้าท่ารถไฟ อุทยานสถานพิมุข ท่าเรือวังหลัง หน้าวัดระฆังโฆษิตาราม หน้าวัดกัลยาณมิตร วรวิหาร นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 120 ชุด กระจายตามพื้นที่ต่างๆ และจุดบริการทางแพทย์ 35 จุด จัดบริการในแต่ละพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]