เชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

กรมประชาสัมพันธ์11 ต.ค. -รัฐบาลเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก และเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จชมพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และคณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร่วมแถลงข่าวภาพรวมการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องครบถ้วนในทุกเรื่อง และมีส่วนร่วมเฝ้ารับเสด็จและชื่นชมพระบารมีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตามแบบโบราณราชประเพณีที่มีหนึ่งเดียวในโลก 


นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภารกิจของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ดำเนินการใน3 เรื่องหลักๆ คือ การให้ข้อมูลในทุกเรื่อง ทั้งการอำนวยความสะดวก จุดรับเสด็จ การจัดโรงครัวพระราชทาน จุดจัดรถรับส่ง การดูแลสุขภาพ การประชาสัมพันธ์ในประเทศ และต่างประทศ สำหรับในประทศ จะเน้นให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร มาร่วมงานได้อย่างถูกต้องหรือรับชมทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ต่างประทศ จะประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนไทยที่อยู่ทั่วโลกได้ร่วมชมพร้อมกัน ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ผ่านช่องทางของสถานทูตไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ ทางเว็ปไซต์www.phralan.in.th และเฟซบุ๊ก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช2562 

สำหรับการถ่ายสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และถ่ายทอดทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ เริ่มเวลา15.15 น. จนเสร็จพระราชพิธี โดยยึดพระราชกระแสรับสั่งของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทาน ให้บรรยายในสิ่งที่จำเป็น ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนได้รับอรรถรสครบถ้วนทั้งภาพและเสียง โดยจะจัดเจ้าหน้าเพื่อลงไปบันทึกภาพกำลังผลฝีพาย และเสียงเห่เรือ ในขบวนเรือ เพื่อให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดเสมือนอยู่ในพระราชพิธีจริง 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมพิธี  เน้นย้ำข้อห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไม่ประสงค์ให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนจากพระราชพิธี ขอให้อำนวยความสะดวกและเอาใจใส่ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธี 


ด้านนางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาระกิจส่วนแรกของกทม.คือ จัดพื้นที่สำหรับประชาชน ปรับภูมิทัศน์ ถนน และประดับตกแต่งริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับสวนสาธารณะ อาทิ สวนสันติชัยปราการ สะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินตลอดเส้นทาง คาดจะแล้วเสร้จ22-23 ตุลาคมนี้ รวมทั้งติดตั้งไฟประดับถนน และสะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร้จภายใน 15ตุลาคมนี้ รวมถึงกทม.ได้จัดเตรียมธงประดับตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงธงโบกให้กับประชาชนในวันพระราชพิธี และมีการจัดเก็บขยะมูลฝอย วัชพืชในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดมเรือ130ลำ เจ้าหน้า150 คนจัดเก็บขยะทุกวันจนถึงวันพระราชพิธี และได้รับความร่วมมือจากขสทบ.จัดเก็บผักตบชวา ตั้งแต่สะพานพระราม7ถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า สำหรับการให้บริการห้องน้ำ ได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่และจุดตั้งห้องสุขาชั่วคราวรวมถึงประสานห้างร้าน บ้านเรือนในย่านนั้น ให้บริการประชาชน โดยจะมีสติกเกอร์แปะไว้ว่าร้านนี้ให้บริการห้องน้ำประชาชน. 

นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมอัฒจันทร์ตามจุดต่างๆไว้ให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จ รองรับได้ทั้งหมด10,700 คน รวมถึงเตรียมสถานที่สำหรับชมขบวนเรือและรับเสด็จ รองรับประชาชนได้ประมาณ 40,000 คน แบ่งเป็น ชมชุนริมน้ำเจ้าพระยา รองรับได้1,000คน หน่วยงานราชการริมแม่น้ำอาทิ ม.ธรรมศาสตร์ กรมอู่ทหารเรือ รองรับได้4,000 คน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา4,000 คน สวนสาธารณะ13 จุด รองรับได้15,600 คน เช่นใต้สะพานพระราม8 สวนสันติชัยปราการ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สวนสามพระยา เป็นต้น พื้นที่เอกชน รองรับได้6,000 คน ขณะเดียวกัน กทม.ได้ดำเนินการสร้างแท่นเจริญพระพุทธมนต์ให้กับทั้ง6วัด เพื่อประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ขณะขบวนเรือเคลื่อนผ่าน เช่น วัดราชาธิวาส วัดเทวราชกุญชร วัดสามพระยา วัดบวรมงคล วัดคฤหบดีและ วัดระฆังโฆษิตาราม

สำหรับการติดตั้งจอแอลอีดี ได้ดำเนินเรียยร้อยแล้ว ทั้ง20 จุด 28 จอเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และการตั้งโรงครัวพระราชทาน ทั้ง 7 จุด ซึ่งกทม.รับผิดชอบในส่วนของจุดวัดอมรคีรี และริมคลองหลอดวัดราชนัดดา  พลเรือโท จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า การจัดขบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้มี52 ลำ ใช้กำลังพลฝีพาย2,200 นาย ระยะทาง3.4 กิโลเมตร จากท่าวาสุกรี ไปท่าราชวรดิฐ การซ้อมย่อย10 ครั้งที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีทั้งการฝึกพายบนบก พายในน้ำ ฝึกในพื้นที่จริง และซ้อมย่อยขบวนเต็มเส้นทาง การซ้อมย่อยแต่ละครั้งมีอุปสรรค์ทางธรรมชาติ ทำให้ฝีพายมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา โดยแต่ละครั้งมีการประสานกทม. กรมเจ้าท่า กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อมาประมวลข้อมูลให้ข้อมูลกับนายเรือเสมือน จึงไม่มีปัญหา 

สำหรับการซ้อมครั้งต่อไป วันที่17 ตุลาคมและ21 ตุลาคม คือ การซ้อมใหญ่ การแต่งกายเสมือนจริง ประดับตกแต่งเรือเสมือนจริงทั้งหมด เพื่อได้รับรู้อุปสรรค์เพื่อให้วันจริงออกมาสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ยัง มีการจัดนิทรรศการที่ไอคอนสยามถึง31ตุลาคม จะได้รับรู้ความเป็นมาของเรือ พระราชพิธีทั้งหมด ก่อนชมพระราชพิธีจริง 

ด้าน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ตำรวจ กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกประชาชนในต่างจังหวัดที่จะการเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี โดยมีรถไฟขบวนพิเศษเพิ่มโบกี้เข้ากรุงเทพมหาราชการ โดยมีจุดบริการ 4 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันตก จ.นครปฐม ทิศเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา และทิศใต้ จ.สมุทรสาคร โดยให้บริการฟรี เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ มีรถชัตเตอร์บัสบริการประชาชนเข้าพื้นที่พระราชพิธี จุดรับ-ส่งชัตเตอร์บัส มี6 โซน โซนที่ 1 มทร.พระนครและใต้สะพานพระราม 8ฝั่งพระนคร โซน2 ลานจอดรถกองสลาก ,สนามหลวงฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร โซน 3 แยกท่าเตียน โซน 4 ถนนอรุณอมรินทร์ 36 ใต้สะพานพระราม8 โซน 5 สถานีรถไฟธนบุรี และโซน 6 วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร 

สำหรับจุดจอดรถรอบนอกและกรุงเทพฯ ชั้นกลาง จัดเตรียมพื้นที่รวม 24 จุด รองรับได้ 26,000 คัน ทิศเหนือ เมืองทองธานี ,ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ,ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และสโมสรตำรวจ ทิศใต้ ลานพุทธมณฑล สาย 5 ,เซ็นทรัลศาลายา,เซ็นทรัลพระราม 2 ,ร.ร.บางมดวิทยา และวิทยาลัยทองสุข ทิศตะวันออก พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ,เมกะบางนา ,อีเกียบางนา และไบเทคบางนา ทิศตะวันตก เซ็นทรัลเวสต์เกต และอาคารจอดรถบางรักน้อยท่าอิฐ ขณะที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง ประชาชนจอดรถได้ที่อู่จอดรถบรมราชชนนี ,สำนักงานอัยการสูงสุด ,ศาลอาญารัชดา ,อาคารจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา,ลานจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา ,สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์,แอร์พอร์ตลิ้งค์มักกะสัน,ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 และท่าเรือคลองเตย 

ประชาชนที่จะเข้าชมขบวนเรือจะต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อผ่านจุดคัดกรอง รวม 15 จุดคัดกรอง ได้แก่ มทร.พระนคร ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร พิพิธบางลำพู ทางเข้าม.ธรรมศาสตร์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม สนามหลวง ด้านม.ธรรมศาสตร์ สนามหลวงด้านศาลฎีกา ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ท่ามหาราช ท่าช้าง แยกท่าเตียน หน้าวังสราญรมย์ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี ทางเข้าท่ารถไฟ อุทยานสถานพิมุข ท่าเรือวังหลัง หน้าวัดระฆังโฆษิตาราม หน้าวัดกัลยาณมิตร วรวิหาร นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 120 ชุด กระจายตามพื้นที่ต่างๆ และจุดบริการทางแพทย์ 35 จุด จัดบริการในแต่ละพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย