กรมประชาสัมพันธ์11 ต.ค. -รัฐบาลเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก และเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จชมพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และคณะทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร่วมแถลงข่าวภาพรวมการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องครบถ้วนในทุกเรื่อง และมีส่วนร่วมเฝ้ารับเสด็จและชื่นชมพระบารมีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตามแบบโบราณราชประเพณีที่มีหนึ่งเดียวในโลก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภารกิจของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ดำเนินการใน3 เรื่องหลักๆ คือ การให้ข้อมูลในทุกเรื่อง ทั้งการอำนวยความสะดวก จุดรับเสด็จ การจัดโรงครัวพระราชทาน จุดจัดรถรับส่ง การดูแลสุขภาพ การประชาสัมพันธ์ในประเทศ และต่างประทศ สำหรับในประทศ จะเน้นให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร มาร่วมงานได้อย่างถูกต้องหรือรับชมทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ต่างประทศ จะประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนไทยที่อยู่ทั่วโลกได้ร่วมชมพร้อมกัน ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ผ่านช่องทางของสถานทูตไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ ทางเว็ปไซต์www.phralan.in.th และเฟซบุ๊ก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช2562
สำหรับการถ่ายสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และถ่ายทอดทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ เริ่มเวลา15.15 น. จนเสร็จพระราชพิธี โดยยึดพระราชกระแสรับสั่งของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทาน ให้บรรยายในสิ่งที่จำเป็น ถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนได้รับอรรถรสครบถ้วนทั้งภาพและเสียง โดยจะจัดเจ้าหน้าเพื่อลงไปบันทึกภาพกำลังผลฝีพาย และเสียงเห่เรือ ในขบวนเรือ เพื่อให้ประชาชนที่ชมการถ่ายทอดสดเสมือนอยู่ในพระราชพิธีจริง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมพิธี เน้นย้ำข้อห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ไม่ประสงค์ให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนจากพระราชพิธี ขอให้อำนวยความสะดวกและเอาใจใส่ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธี
ด้านนางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาระกิจส่วนแรกของกทม.คือ จัดพื้นที่สำหรับประชาชน ปรับภูมิทัศน์ ถนน และประดับตกแต่งริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับสวนสาธารณะ อาทิ สวนสันติชัยปราการ สะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินตลอดเส้นทาง คาดจะแล้วเสร้จ22-23 ตุลาคมนี้ รวมทั้งติดตั้งไฟประดับถนน และสะพานพระราม8 ถนนราชดำเนินทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร้จภายใน 15ตุลาคมนี้ รวมถึงกทม.ได้จัดเตรียมธงประดับตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงธงโบกให้กับประชาชนในวันพระราชพิธี และมีการจัดเก็บขยะมูลฝอย วัชพืชในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดมเรือ130ลำ เจ้าหน้า150 คนจัดเก็บขยะทุกวันจนถึงวันพระราชพิธี และได้รับความร่วมมือจากขสทบ.จัดเก็บผักตบชวา ตั้งแต่สะพานพระราม7ถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า สำหรับการให้บริการห้องน้ำ ได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่และจุดตั้งห้องสุขาชั่วคราวรวมถึงประสานห้างร้าน บ้านเรือนในย่านนั้น ให้บริการประชาชน โดยจะมีสติกเกอร์แปะไว้ว่าร้านนี้ให้บริการห้องน้ำประชาชน.
นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมอัฒจันทร์ตามจุดต่างๆไว้ให้ประชาชนที่มารอรับเสด็จ รองรับได้ทั้งหมด10,700 คน รวมถึงเตรียมสถานที่สำหรับชมขบวนเรือและรับเสด็จ รองรับประชาชนได้ประมาณ 40,000 คน แบ่งเป็น ชมชุนริมน้ำเจ้าพระยา รองรับได้1,000คน หน่วยงานราชการริมแม่น้ำอาทิ ม.ธรรมศาสตร์ กรมอู่ทหารเรือ รองรับได้4,000 คน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา4,000 คน สวนสาธารณะ13 จุด รองรับได้15,600 คน เช่นใต้สะพานพระราม8 สวนสันติชัยปราการ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สวนสามพระยา เป็นต้น พื้นที่เอกชน รองรับได้6,000 คน ขณะเดียวกัน กทม.ได้ดำเนินการสร้างแท่นเจริญพระพุทธมนต์ให้กับทั้ง6วัด เพื่อประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ขณะขบวนเรือเคลื่อนผ่าน เช่น วัดราชาธิวาส วัดเทวราชกุญชร วัดสามพระยา วัดบวรมงคล วัดคฤหบดีและ วัดระฆังโฆษิตาราม
สำหรับการติดตั้งจอแอลอีดี ได้ดำเนินเรียยร้อยแล้ว ทั้ง20 จุด 28 จอเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และการตั้งโรงครัวพระราชทาน ทั้ง 7 จุด ซึ่งกทม.รับผิดชอบในส่วนของจุดวัดอมรคีรี และริมคลองหลอดวัดราชนัดดา พลเรือโท จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า การจัดขบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้มี52 ลำ ใช้กำลังพลฝีพาย2,200 นาย ระยะทาง3.4 กิโลเมตร จากท่าวาสุกรี ไปท่าราชวรดิฐ การซ้อมย่อย10 ครั้งที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีทั้งการฝึกพายบนบก พายในน้ำ ฝึกในพื้นที่จริง และซ้อมย่อยขบวนเต็มเส้นทาง การซ้อมย่อยแต่ละครั้งมีอุปสรรค์ทางธรรมชาติ ทำให้ฝีพายมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา โดยแต่ละครั้งมีการประสานกทม. กรมเจ้าท่า กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อมาประมวลข้อมูลให้ข้อมูลกับนายเรือเสมือน จึงไม่มีปัญหา
สำหรับการซ้อมครั้งต่อไป วันที่17 ตุลาคมและ21 ตุลาคม คือ การซ้อมใหญ่ การแต่งกายเสมือนจริง ประดับตกแต่งเรือเสมือนจริงทั้งหมด เพื่อได้รับรู้อุปสรรค์เพื่อให้วันจริงออกมาสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ยัง มีการจัดนิทรรศการที่ไอคอนสยามถึง31ตุลาคม จะได้รับรู้ความเป็นมาของเรือ พระราชพิธีทั้งหมด ก่อนชมพระราชพิธีจริง
ด้าน พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ตำรวจ กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกประชาชนในต่างจังหวัดที่จะการเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี โดยมีรถไฟขบวนพิเศษเพิ่มโบกี้เข้ากรุงเทพมหาราชการ โดยมีจุดบริการ 4 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันตก จ.นครปฐม ทิศเหนือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา และทิศใต้ จ.สมุทรสาคร โดยให้บริการฟรี เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ มีรถชัตเตอร์บัสบริการประชาชนเข้าพื้นที่พระราชพิธี จุดรับ-ส่งชัตเตอร์บัส มี6 โซน โซนที่ 1 มทร.พระนครและใต้สะพานพระราม 8ฝั่งพระนคร โซน2 ลานจอดรถกองสลาก ,สนามหลวงฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร โซน 3 แยกท่าเตียน โซน 4 ถนนอรุณอมรินทร์ 36 ใต้สะพานพระราม8 โซน 5 สถานีรถไฟธนบุรี และโซน 6 วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร
สำหรับจุดจอดรถรอบนอกและกรุงเทพฯ ชั้นกลาง จัดเตรียมพื้นที่รวม 24 จุด รองรับได้ 26,000 คัน ทิศเหนือ เมืองทองธานี ,ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ,ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และสโมสรตำรวจ ทิศใต้ ลานพุทธมณฑล สาย 5 ,เซ็นทรัลศาลายา,เซ็นทรัลพระราม 2 ,ร.ร.บางมดวิทยา และวิทยาลัยทองสุข ทิศตะวันออก พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ,เมกะบางนา ,อีเกียบางนา และไบเทคบางนา ทิศตะวันตก เซ็นทรัลเวสต์เกต และอาคารจอดรถบางรักน้อยท่าอิฐ ขณะที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง ประชาชนจอดรถได้ที่อู่จอดรถบรมราชชนนี ,สำนักงานอัยการสูงสุด ,ศาลอาญารัชดา ,อาคารจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา,ลานจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา ,สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์,แอร์พอร์ตลิ้งค์มักกะสัน,ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 และท่าเรือคลองเตย
ประชาชนที่จะเข้าชมขบวนเรือจะต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อผ่านจุดคัดกรอง รวม 15 จุดคัดกรอง ได้แก่ มทร.พระนคร ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร พิพิธบางลำพู ทางเข้าม.ธรรมศาสตร์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม สนามหลวง ด้านม.ธรรมศาสตร์ สนามหลวงด้านศาลฎีกา ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ท่ามหาราช ท่าช้าง แยกท่าเตียน หน้าวังสราญรมย์ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี ทางเข้าท่ารถไฟ อุทยานสถานพิมุข ท่าเรือวังหลัง หน้าวัดระฆังโฆษิตาราม หน้าวัดกัลยาณมิตร วรวิหาร นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 120 ชุด กระจายตามพื้นที่ต่างๆ และจุดบริการทางแพทย์ 35 จุด จัดบริการในแต่ละพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย