นครนายก 10 ต.ค. – หลังเจ้าหน้าที่พยายามวางตาข่ายเก็บกู้ซากช้าง 11 ตัว ที่ตกน้ำตกเหวนรก ในที่สุดวันนี้ก็สามารถงัดซากช้างที่ติดขอนไม้กลางลำธารออกมาชำแหละได้แล้ว 1 ตัว
วันนี้ (10 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ทีมเก็บกู้ซากช้างป่า สามารถดึงซากช้างออกจากขอนไม้กลางลำธาร ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว ก่อนช่วยกันประคองให้น้ำพัดซากช้างเข้าตลิ่ง เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ บันทึกรายละเอียดของช้างป่า ก่อนทำการชำแหละซาก บรรจุถุงพลาสติกห่อศพที่ได้รับมอบจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เพื่อนำชิ้นส่วนต่างๆ ของช้างขึ้นเรือไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ประมาณ 5 กิโลเมตร
ขณะที่ทีมตอบโต้ภัยพิบัติฯ ซึ่งใช้โดรนบินสำรวจสวนขึ้นไปตามลำธาร พบซากช้างป่าถูกน้ำพัดลงมาจากจุดเดิมเพิ่มอีก 2 ตัว แต่ยังไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปถึง รวมขณะนี้พบซากช้างป่าถูกน้ำพัดลงมาช่วงปลายน้ำตกเหวนรกแล้ว 5 ตัว จากทั้งหมด 11 ตัว
ด้านนายไกรรพี ไชยจิตต์ เจ้าหน้าที่ประสานงานกู้ภัยบัวเพชร นำบอดี้แพ็ก 68 ชิ้น มาให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อเก็บกู้ซากช้างป่าหลังทำการย่อยชิ้นส่วนออกมายังพื้นที่ด้านนอก ถุงชนิดนี้สามารถเก็บอุณหภูมิได้ แต่ไม่สามารถกันน้ำ เพราะต้องการให้มีการระบายอากาศได้ดี เนื่องจากซากจะได้ไม่เน่าเร็ว สามารถรับน้ำหนักได้มากสุดถึง 100 กิโลกรัม โดยหลังจากนำบอดี้แพ็กใส่ซากช้างที่ถูกย่อยแล้ว จากนั้นจะทำการซีลอย่างดี ผูกติดกับแกลลอน แล้วใช้เรือชักลากออกจากพื้นที่ขึ้นมายังฝั่ง ก่อนจะใส่รถบรรทุกไปทำการเผาที่วัดท่าด่าน โดยจะมีพิธีกรรมทางศาสนา
นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 บอกว่า ในส่วนของคุณภาพน้ำ ทางจังหวัดนครนายกได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา ประกอบด้วย รองผู้ว่าฯ และหลายฝ่าย จะได้สบายใจว่ามีการตรวจสอบการทำงานทุกระยะ และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ใช้น้ำท้ายเขื่อน แต่สิ่งที่เป็นห่วงและกังวล คือ เรื่องปริมาณน้ำที่อาจจะไหลมาอย่างรวดเร็ว. – สำนักข่าวไทย