ปตท.ลงทุนแสนล้านปี 63 “สมคิด” ชี้ช่วยบาทอ่อน

กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – “สมคิด” เร่งรัด ปตท.ลงทุน ไตรมาส 4/62 และปี 63 รวม 1.3 แสนล้านบาท คาดหวังช่วยทำให้บาทอ่อนค่า แนะเอกชนฉวยบาทแข็งเร่งลงทุน ดึง ปตท.ร่วมโครงการประชารัฐสร้างไทย ให้โจทย์ กระจายหุ้นโออาร์ให้ชุมชน ร่วมถือหุ้นด้วย ส่วนปุ๋ยสั่งตัด เกิดได้แน่ปีหน้า


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานได้หารือร่วมกับผู้บริหารกลุ่ม ปตท.นำโดยนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซีอีโอ  ปตท. นายสมคิด ได้สั่งการให้ กลุ่ม ปตท.เร่งลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเศรษฐกิจระดับฐานราก ทั้งขยายโครงการไทยเด็ดที่ใช้ปั๊มน้ำมัน เป็นศูนย์ กระจายสินค้าชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ายอดขายขยับดีขึ้น เช่น ผัดไทยภูเขาไฟบุรีรัมย์ ยอดขายเพิ่มจากเดือนละ 1 พันซอง กลายเป็นวันละ 1 พันซอง กระเทียมดำจากลำพูนขายได้จากเดือนละ10 ตันเป็น 20 ตันต่อ ในขณะเดียวกัน ได้ทวงถามให้เดินหน้าโครงการปุ๋ยสั่งตัด เพื่อลดต้นทุนเกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการกระจายหุ้น บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ โออาร์ ซึ่งคาดว่าจะยื่นไฟลิ่ง ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้  โดย กลุ่ม ปตท.ได้โชว์สินค้าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นแผนเศรษฐกิจหมุนเวียนและนวัตกรรมอื่นๆ 


นายสมคิด กล่าวว่า  ขอชื่นชมนโยบายของ กลุ่ม ปตท.ที่ดำเนินการธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษกิจประเทศไทย ไม่ใช่เน้นการดำนเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว โดยดูถึงสิ่งแวดล้อม สังคม  ชุมชน การส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียร  ซึ่งเป็นส่วนที่จะมีช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน และจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมีปัญหาจากสงครามการค้า ส่งผลต่อค่าเงินทั่วโลกและทำให้เงินบาทไทยแข็งค่าในรอบกว่า 6 ปี ก็ได้ขอให้ ปตท. รัฐวิสาหกิจอื่นๆและเอกชน ใช้ช่วงเงินบาทแข็งค่าเร่งรัดลงทุน  จะทำให้ต้นทุนต่ำ และการลงทุนนำเข้าเครื่องจักรก็จะมีผลให้บาทอ่อนค่า โดย ปตท.ได้แจ้งว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้จะลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท และปี 63 จะลงทุนราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี  โดยในส่วนของธุรกิจขึ้นต้นของ ปตท. เช่นปิโตรเคมีมีการลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นล้านล้านบาท และทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ 

ในขณะที่ ธุรกิจขั้นปลาย ปตท. มีการดำเนินการหลากหลายรูปแบบ โดยในส่วนของ โออาร์ ก็ให้พิจารณาเพิ่มเติม ว่า กรณีการกระจายหุ้น จะทำให้อย่างไรให้ ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการถือหุ้นได้ และ ขอ ดึง ปตท.เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชารัฐสร้างไทย ที่จะมีส่วนส่งเสริมทั้งการจำหน่ายสินค้าเกษตรกร การส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านการจำหน่ายสินค้าทั้งในปั๊ม และ ร้านคาเฟ่อเมซอน ซึ่งมีสาขาทั้งในและต่างประเทศ  โดยให้นำสินค้าชุมชนไปร่วมจำหน่าย รวมทั้งให้พิจารณาว่า จะมีการตั้งร้านคาเฟอเมซอนในชุมชนอีกด้วย ส่วนเรื่องปุ๋ยสั่งตัด เพื่อช่วยลดต้นเกษตรกร นั้น ทาง ปตท.รายงานว่าพร้อมจะนำเข้าแม่ปุ๋ย มาผสมให้เหมาะสมแก่พืชแต่ละประเภท แล้วจำหน่ายแก่เกษตรกร โดยร่วมมือกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. )ในการร่วมจำหน่ายอีกด้วย


 นอกจากนี้ยังให้ ปตท.ช่วยศึกษาและมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรว่าทำอย่างไร ให้เข้าตลาดแรงงานได้ง่ายขึ้น เช่น นักศึกษาม.ปลาย ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  โดยปัจจุบัน กลุ่ม ปตท.มีสถาบันผลิตบุคลากรของอเมซอน ก็สามารถช่วยโครงการนี้ได้เช่นกัน    

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า กล่าวว่า  ปตท.รับนโยบายของ นายสมคิดมาดำเนินการ โดยในส่วนของร้าน คาเฟอเมซอนในชุมชน คงจะต้องไปดูถึงรูปแบบให้ เป็นพื้นที่ทำงานร่วมของชุมชน หรือ Co-Working Space ซึ่ง กลุ่ม ปตท.เดินหน้าการสร้างความยั่งยืน ตาม SDG GOAL  ซึ่งหากสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เข้มแข็ง กลุ่ม ปตท.ก็เติบโตไปด้วย

โดยในส่วนของการลงทุนนั้น ใน ไตรมาส 4 ปี นี้ ลงทุนอีกราว 3 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนหลายโครงการ เช่น การเพิ่มทุนใน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่  หรือ จีพีเอสซี 1.7 หมื่นล้านบาท ในการเข้า ซื้อกิจการโกล์วเอนเนอร์ยี่ การลง     การลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานทั้งการลงทุนท่อก๊าซเส้นที่ 5 การเชื่อมต่อโครงการท่อก๊าซตะวันออก-ตะวันตก โครงการวังจันทร์วัลเลย์ เป็นต้น ในขณะที่ ปี 2563 โครงการลงทุนราว 1 แสนล้านบาท  เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 โครงการพัฒนาสถานีแอลเอ็นจีหนองแฟบ โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 3 โครงการท่อก๊าซเส้นที่ 5 รวมทั้งงบประมาณโครงการลงทุนในอนาคต (Provision ) การลงทุนในกองทุนร่วมลงทุนเป็นต้น 

รายงานข่าว ระบุว่า ในขณะนี้ ปตท.กำลังปรับแผนลงทุนและจะเสนอ ต่อ บอร์ด ปตท. เพื่อจัดทำแผนลงทุน 5 ปี (2563-2567 )จะมีเงินลงทุนราว 2.66 แสนล้านบาท โดยส่วนนี้เป็นงบ Provisionถึง 2.04 ล้านบาท และเป็นโครงการลงทุนต่อเนื่องที่มีโครงการชัดเจนแล้วประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย