ศาลฎีกาฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดีออกพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” มิชอบ

ศาลฎีกาฯ 10 ต.ค.-ศาลฏกานักการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยคดีออกพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” โดยมิชอบ ด้าน “สุรพงษ์” นั่งวีลแชร์มาตามนัด เผยป่วยหนักมะเร็งระยะลุกลาม ระบุไม่กังวล อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 จากการเร่งรัดออกหนังสือเดินทางให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบแบบวันเดียวเสร็จ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับนายทักษิณ เมื่อปี 2554 จำนวน 2 เล่ม ทั้งที่นายทักษิณ ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่ม นปช.ในคดีก่อการร้าย และยังติดโทษในคดีอื่น ๆ หลายคดี ซึ่งขัดต่อระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ก่อนที่หนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่มดังกล่าวจะถูกยกเลิกในสมัยที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ได้เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเองตั้งแต่ช่วงเช้า โดยนั่งรถเข็นผู้ป่วย หรือวีลแชร์ สวมหน้ากากอนามัย โดยเปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า ขณะนี้ไม่สบาย ป่วยเป็นมะเร็งระยะลุกลาม และอยู่ระหว่างการให้เคมีบำบัด ซึ่งขณะนี้ให้ไปแล้ว 8 ครั้ง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น และยังมีอาการข้างเคียง มีฝีที่หลังต้องผ่าตัด มีแผลในช่องปากทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีโรคแทรกซ้อน ทั้งเบาหวาน ความดัน เส้นเลือดหัวใจตีบ ปลายประสาทอักเสบ ทำให้ยืนนานไม่ได้ จึงต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ไม่กังวล เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด


สำหรับคดีดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษาคดีชั้นต้น ไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 สั่งให้จำคุกนายสุรพงษ์ เป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา โดยเห็นว่านายสุรพงษ์ มีพฤติกรรมบ่งชี้และเตรียมการออกหนังสือเดินทางล่วงหน้าให้กับนายทักษิณ โดยปิดบังซ่อนเร้นวิธีเรื่อยมา พร้อมและไม่ยอมใช้อำนาจเจ้ากระทรวงยับยั้งการออกหนังสือเดินทาง เนื่องจากในสมัยที่นายกษิต ภิรมย์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น ได้ขึ้นบัญชีดำ เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายทักษิณเอาไว้แล้ว เพื่อรอการนำตัวกลับมารับโทษ เพราะการอยู่ต่างประเทศของนายทักษิณนั้น ยังกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย แต่นายสุรพงษ์ กลับยกเลิกคำสั่งดังกล่าว โดยอ้างว่าคดีที่นายทักษิณหลบหนีนั้น เป็นเพียงการทุจริตการซื้อขายที่ดินรัชดาเท่านั้น พร้อมยังแอบอ้างนโยบายการออกหนังสือเดินทางดังกล่าวของรัฐบาลที่ไม่มีอยู่จริง เพราะคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนแนวทางการออกหนังสือเดินทาง ตามระเบียบของทรวงการต่างประเทศ จึงถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือนายทักษิณให้สามารถหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศได้โดยสะดวก

อย่างไรก็ตาม ทางศาลฯ ได้เตรียมรถจากกรมราชทัณฑ์ และรถพยาบาลมาสแตนบายรอไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน