กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – กระทรวงพลังงานเร่งระดมความเห็นโรงไฟฟ้าชุมชน คาดสรุปใน 1 เดือน มั่นใจกลุ่มแรกเกิดกลางปี 63 เริ่มจากกลุ่ม Quick Win เพื่อเป็นกรณีศึกษา
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานจัดการประชุม เพื่อรับฟังความคิดเห็น การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยมีภาคเอกชน ชุมชน สถาบันการเงินและภาคส่วนต่าง ๆ ที่สนใจเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ ได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วน นับเป็นการปรับระบบการทำงานของกระทรวงที่ให้ทุกภาคส่วนช่วยระดมสมอง ซึ่งมีเป้าหมายช่วยกระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก โดยดำเนินตามแนวทางประชารัฐสร้างไทย คาดว่าหลังจากระดมความคิดเห็นแล้ว กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จะสรุปภาพรวมโครงการทั้งหมดภายใน 1 เดือนนับจากนี้ไป จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากปี 2563 ต่อไป ระยะแรกตั้งเป้าจะให้เกิดขึ้นกลางปี 2563 เริ่มจากกลุ่ม Quick Win คือ กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ภาครัฐให้การสนับสนุนไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถจ่ายไฟเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าได้ประมาณ 10-20 ก่อน และเมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าชุมชนแห่งใหม่จะมีประมาณ 250 โครงการ ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดกำลังไฟฟ้าที่จะต้องผลิต เพราะขึ้นกับความต้องการ ตลอดจนความพร้อมความเหมาะสมของชุมชนแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับประเด็นที่ระดมความคิดเห็นวันนี้ (9 ต.ค.) เช่น สัดส่วนการถือหุ้นระหว่างชุมชนกับเอกชนกำหนดไว้ว่า ให้ชุมชนถือหุ้นร้อยละ 10 เอกชนร้อยละ 90 โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ จ่ายผลตอบแทนแก่ชุมชมเบื้องต้นกำหนดไว้หน่วยละ 25 สตางค์ รูปแบบโครงการเบื้องต้นกำหนดไว้ 7 รูปแบบโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น ด้านกรอบนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนฯ นั้น ทางกระทรวงพลังงานต้องการ ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการผลิต ใช้ และจำหน่ายไฟฟ้า อย่างยั่งยืน และยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีรายได้ ช่วยสร้างการยอมรับของชุมชนในการพัฒนาโครงการไฟฟ้าของประเทศ ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า สร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ ส่งเสริมโรงไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน
สำหรับพื้นที่เป้าหมายในการส่งเสริมให้สร้างโรงไฟฟ้าชุมชนฯ คือ พื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงานหมุนเวียนทั่วประเทศ โดยเฉพาะมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด รวมถึงพืชพลังงานอย่างหญ้าเนเปียร์ และมีระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ไม่ว่าจะเป็นระบบส่ง ระบบจัดจำหน่ายที่สามารถรองรับไฟฟ้าที่ผลิตได้จากชุมชน โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ จะเริ่มจากโครงการ Quick Win เป็นตัวอย่างก่อน โดยเลือกจากโครงการที่ภาครัฐให้เงินสนับสนุนไปแล้วมาดำเนินการก่อน โดยภาคเอกชนจะเป็นผู้เสนอความพร้อมของโรงไฟฟ้าที่เสร็จแล้วหรือใกล้จะเสร็จ การดำเนินการนี้เพื่อจะได้เรียนรู้ปัญหาและอุปสรรคของโรงไฟฟ้าลักษณะนี้ ขณะที่ด้านวิสาหกิจชุมชนจะมีส่วนร่วมลงทุนหุ้นมากกว่าร้อยละ 10 และได้รับส่วนแบ่งรายได้มากกว่า 25 สตางค์ต่อหน่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแนวคิดการเริ่มโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เจ้าหน้าที่ พพ.ระบุว่าจะเริ่มต้นด้วยกระทรวงพลังงานประกาศพื้นที่ที่ต้องการส่งเสริมให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนฯ พร้อมทั้งปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการให้ผลิต ขณะที่ชุมชนจะเสนอความพร้อมที่จะให้มีการสร้างโรงไฟฟ้า โดยมีที่ดินให้สร้าง พร้อมเชื้อเพลิงที่จะป้อนโรงไฟฟ้าชุมชนฯ อย่างเพียงพอ จากนั้นคณะกรรมการที่กระทรวงพลังงานตั้งจะพิจารณาโครงการต่าง ๆ และประกาศรายชื่อชุมชนที่ผ่านการพิจารณา และนำไปสู่การลงพื้นที่ของภาคเอกชนผู้ลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนฯ พร้อมแหล่งเงินทุนและมีการเสนอราคาไฟฟ้ากลับมายังคณะกรรมการ เพื่อประกาศคัดเลือกประกาศผลโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้สร้างได้ และภาคเอกชนเดินหน้าขอใบอนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนและก่อสร้างเสร็จและจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
