ผู้ตรวจการแผ่นดิน 9 ต.ค.-ชาวบ้านเกาะช้างร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ช่วยแก้ปัญหาอุทยานแห่งชาติประกาศเขตทับที่ดินทำกิน ชาวบ้านเดือดร้อนถูกจับดำเนินคดี-กระทบท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ต.ค.) นายสมชาย กลิ่นอยู่ รองประธานหอการค้าจังหวัดตราด นำชาวบ้านเกาะช้าง เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบกรณีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ประกาศเขตทับที่ดินทำกินของชาวบ้านที่อยู่มาดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2468 และปัญหาการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินพื้นที่หมู่เกาะช้าง
นายสมชาย กล่าวว่า ชาวบ้านใน 9 หมู่บ้านของอำเภอเกาะช้างได้รับความเดือดร้อนจากการที่สำนักงานที่ดิน จ.ตราด ส่วนแยกแหลมงอบ นำระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2532) ข้อ 10 ที่ระบุว่า ในกรณีที่ที่ดินนั้นมีด้านหนึ่งด้านใด หรือหลายด้านจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า และระยะที่วัดได้เกินกว่าระยะที่ปรากฎในหลักฐานการแจ้งครอบครอง ให้ถือระยะที่ปรากฎในหลักฐานการแจ้งการครอบครองเป็นหลักในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ มาดำเนินการกับชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินอยู่ดั้งเดิมและไปขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก. ส่งผลที่ดินที่ชาวบ้านถือครองอยู่เดิมถูกตัดระยะไป เมื่อชาวบ้านท้วงติงกับเจ้าหน้าที่ว่ากรมที่ดินได้มีหนังสือที่ มท.0516.2(4) /3236 ลงวันที่ 29 มกราคม 2553 ถึงผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช และหนังสือกรมที่ดินที่ มท. 0516.5/5992 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แจ้งว่าการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยอาศัยหลักฐาน ส.ค. 1 ที่มีด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านจดที่ภูเขามิได้ระบุว่าจดที่ป่าหรือที่รกร้างว่างเปล่า จึงไม่ถือเอาระยะที่ปรากฏในหลักฐาน ส.ค.1 เป็นหลัก ทางเจ้าหน้าที่กลับอ้างว่ากรณีดังกล่าวเป็นแนวปฏิบัติของกรมที่ดินเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่สามารถนำมาใช้กับเกาะช้าง จ.ตราดได้ จึงเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ไม่ถูกต้องเป็นธรรม
นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ปัจจุบันเกิดปัญหามาก คือ ที่ดินหลักฐาน ส.ค. 1 ที่เหลือจากการถูกตัดระยะบริเวณที่ถูกอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างประกาศเขตทับที่ดินทำกินขาวบ้านดั้งเดิม ในปี 2525 หากชาวบ้านเข้าไปทำประโยชน์ต่อเนื่อง ก็จะถูกอุทยานฯ เข้าตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีทันที ขณะที่ที่ดินหลักฐาน ส.ค.1 ที่เหลื่อมจากการถูกตัดระยะบริเวณที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ ก็จะไม่สามารถขออนุญาตปลูกสร้างที่พัก รีสอร์ท หรือโรงแรมได้ เพราะขาดหลักฐานเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินที่ต้องนำไปประกอบการขออนุญาต ทำให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อนทั้งถูกจับ ไม่มีที่ทำกิน รวมทั้งกระทบการท่องเที่ยว และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้กับประชาชน จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ และประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย