“มนัญญา”ลั่นยกเลิกสารเคมี 3 อันตราย 1 ธ.ค. 62

กรุงเทพฯ 7 ต.ค. – “มนัญญา” เผย ผู้แทน 4 ภาคส่วน มีมติยกเลิกสารเคมี 3 อันตราย  เสนอให้วันที่ 1 ธ.ค. 62 ต้องหมดไปจากประเทศไทย พร้อมกำหนดสารทดแทน เร่งสรุปเสนอนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้ ด้าน “เฉลิมชัย”เร่งแผนเกษตรยั่งยืน


นายสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจากผู้แทน 4 ภาคส่วน เพื่อหาข้อสรุปในการยกเลิกการใช้สารเคมี พาราควอต ,ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยมีตัวแทนที่เข้าร่วมประชุม เช่น กรมวิชาการเกษตร  กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมควบคุมโรค สมาคมสหพันธุ์องค์กรผู้บริโภค กลุ่มเกษตรอินทรีย์ สมาคมอารักขาพืชไทย  ส่วนสมาคมอารักขาพืช ไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยมีหนังสือแจ้งที่ประชุมว่า ไม่สามารถร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ

นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ได้เปิดโอกาสให้ที่ประชุมแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 9 คน เห็นสมควรให้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ซึ่งปัจจุบันเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ปรับเป็นชนิดที่ 4 ซึ่งหมายถึงวัตถุอันตรายที่มีความอันตรายหรือมีความเสี่ยงสูง รวมทั้งเสนอให้ยกเลิกใช้ทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 หากยกเลิกได้ จะเป็นผลให้เกิดการห้ามครอบครอง ห้ามจำหน่าย ห้ามนำเข้า ห้ามผลิต 


“หลังจากนี้จะนำมติให้กรรมการทุกคนลงนามรับผลประชุม ก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรี ,รมว.เกษตรและสหกรณ์ ,รมว.สาธารณสุข และ รมว.อุตสาหกรรมภายใน 1-2วัน และเนำเสนอต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งเดิมมีกำหนดประชุมวันที่ 27 ตุลาคมนี้ แต่เมื่อคณะทำงาน 4 ฝ่ายมีข้อยุติในวันนี้คาดว่า จะมีการเลื่อนการประชุมชี้ขาดขึ้นมาได้เร็วจากกำหนดเดิม”นายสาวมนัญญากล่าว

นางสาวมนัญญา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะลงมติเปิดเผยหรือโดยลับก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ แต่ในส่วนของผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคมพร้อมเปิดเผยชื่อและความเห็นที่เสนอต่อที่ประชุม ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับสารหรือวิธีการทดแทนครบสมบูรณ์เสนอมาแล้ว โดยมีทั้งการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร การใช้สารชีวพันธุ์ และสารเคมีชนิดอื่นซึ่งเป็นพิษน้อยกว่า แม้ประสิทธิภาพการกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืชอาจด้อยกว่า แต่ปลอดภัยกว่า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อสารเคมีที่จะมาทดแทนได้ เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับทางการค้า 

“วันนี้เราพบว่า สารเคมี 3 ชนิดนี้เป็นพิษร้ายแรงอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อมจึงควรยกเลิกการใช้ทันที หากในอนาคตพบว่าสารเคมีตัวอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด มีความเป็นพิษสูงจะเสนอยกเลิกเช่นกัน  โดยสารทดแทนที่ใช้ราดหญ้าและฆ่าแมลงอาจจะใช้เวลาเพิ่มสักขึ้นเล็กน้อยกว่าหญ้าและแมลงจะตาย อาจช้าไป 3-5ชั่วโมง แต่ไม่เป็นอันตรายและไม่มีความเป็นพิษสูง เกษตรกรรู้ว่ามี สารอะไรใช้แทนได้และเริ่มใช้กันแล้ว” นางสาวมนัญญากล่าว


นางสาวมนัญญา ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีนายทุนรายใหญ่ที่จะรอนำเข้าสารทดแทนตัวใหม่เข้ามาในประเทศไทย เหมือนที่มีการกล่าวหาว่า”พรรคภูมิใจไทย” เตรียมเปิดทางให้นายทุนของพรรคนำสารเคมีชนิดใหม่เข้ามา อีกทั้งการขออนุญาตนำเข้าไม่ได้ทำได้ในทันทีเพราะต้องมีระยะการพิสูจน์ทางพิษวิทยาและการขออนุญาตที่ทำตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานในสังกัดเร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเร่งด่วนเพื่อรองรับการแบนสารเคมีอันตราย 3 ชนิด ดังกล่าว ซึ่งได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงฯ รวบรวมมาให้ได้มากที่สุด และเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ฉบับที่ พ.ศ….ต่อสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีพื้นที่เกษตรปลอดภัย 3 ล้านกว่าไร่ ซึ่งจะให้ขยายเป็น 5 ล้านไร่ โดยเร็ว พร้อมกันนี้จะยกระดับการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ได้ถึง 570,000ไร่ ปัจจุบันมีอัตราขยายตัวร้อยละ16 ต่อปี เป็นอันดับ 7 ของเอเซีย โดยให้วางเป้าใหม่ต้องขยายตัวร้อยละ 25 ต่อปีเพื่อบรรลุเป้าหมายแรก 1 ล้านไร่ โดยกำลังพิจารณาจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน

“ผมห่วงใยต่อสุขภาพของเกษตรกรไทย แต่จะไม่ยอมให้คนไทยตายผ่อนส่งอีกต่อไปจึงมีแผนเร่งด่วนรองรับนโยบายการแบน3สารพิษ เป็นแผนเกษตรกรรมแบบยั่งยืน จุดเปลี่ยนครั้งนี้สำคัญต่ออนาคตภาคเกษตรและอาหารของประเทศ จะตอบโจทย์ทั้งระยะเฉพาะหน้าและระยะยาวตามแนวทางของท่านนายกรัฐมนตรี” นายเฉลิมชัยกล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.