จับเมล็ดฝิ่นข้ามชาติ 170 ตันค่ากว่า 25 ล้าน

ชลบุรี 4 ต.ค.-ศุลการกรจับ “เมล็ดฝิ่น” 170 ตัน มูลค่า 25 ล้านบาท สำแดงเป็นเมล็ดควินัว ต้นทางจากปากีสถาน ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง-ด่านแม่สอด ปลายทางเมียนมา


ที่ท่าเรือแหลมฉบัง   อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร  ร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจยาเสพติด (บช.ปส.) ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง ด่านอาหารและยาท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือแหลมฉบัง แถลงจับกุมสินค้าผ่านแดน “เมล็ดฝิ่น” น้ำหนัก 170 ตัน มูลค่าของกลางกว่า 25 ล้านบาท ซึ่งสินค้าเมล็ดฝิ่นที่ตรวจพบมีสารเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522


โดยได้ร่วมกันตรวจสอบตู้สินค้าผ่านแดน ตามใบขนสินค้าผ่านแดน จำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์  สำแดงชนิดสินค้าเป็น WHITE POPPY SEEDS ปริมาณ 6,799 กระสอบ น้ำหนัก 169,800 กิโลกรัม ประกอบใบแจ้งการนำผ่านตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (แบบ พ.ก. 5-1) สำแดงสินค้านำผ่านเป็น เมล็ดควินัว (Quinoa seed) โดยมีประเทศกำเนิดอัฟกานิสถาน ต้นทางบรรทุกจากปากีสถาน ผ่านแดนประเทศไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง-ด่านแม่สอด) ปลายทางประเทศเมียนมา

จากการเปิดตรวจพบสินค้ามีลักษณะเป็นเมล็ดพืชสีขาว โดยมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าสินค้าอาจเป็นของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าศุลกากรจึงได้แจ้งกักสินค้าไว้ และทำการชักตัวอย่างให้สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจสอบของด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง พบสินค้าดังกล่าวไม่ใช่เมล็ดควินัว ดังนั้นใบรับรองสุขอนามัยพืชที่กำกับมากับสินค้าจึงระบุชื่อวิทยาศาสตร์ไม่ถูกต้อง และผลการตรวจของสถาบันวิชาการ ซึ่งผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พบชนิดสินค้าเป็น “เมล็ดฝิ่น” มีสารกลุ่ม Volatile เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งในกรณีผ่านแดนต้องมีใบอนุญาตของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศที่ส่งออกนั้นมาพร้อมกับยาเสพติดและต้องแสดงใบอนุญาตดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากร ทั้งนี้ ผู้ขอนำของผ่านแดนไม่ได้แสดงใบอนุญาตดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากรแต่อย่างใด ซึ่งสินค้าของกลางที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท


สินค้าเมล็ดฝิ่นดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ถือเป็นการยื่น หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้าเอกสารหรือข้อมูล ซึ่งเกี่ยวกับการเสียอากรหรือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 202 มาตรา 244 และมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดสินค้าของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว