สำนักข่าวไทย 2 ต.ค.- กรณีพริตตี้สาวชาวบุรีรัมย์ร้องถูกเจ้าบ่าวอ้างเป็นเสี่ยหมื่นล้าน หลอกแต่งงานจนเป็นหนี้กว่า 3.5 ล้านบาท สำนักข่าวไทย แกะรอยเส้นทาง “รักแรกพบ” ของอดีตเจ้าสาวและอดีตเจ้าบ่าวรายนี้ พบว่าประมาณ 6 เดือน ทั้งคู่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขอแต่งงาน, แต่งงาน, จดทะเบียน และจดทะเบียนหย่า มีไทม์ไลน์ดังนี้
“น.ส.ดา” และ “นายเท็น” เจอกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นวันที่ 16 มีนาคม 2562 เพียง 1 วันให้หลัง “นายเท็น” ขอเธอแต่งงานทันที และมีการตอบตกลงทันทีเช่นเดียวกัน ผ่านไป 10 วัน ในวันที่ 26 มีนาคม 2562 ทั้งสองควงคู่ไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตห้วยขวาง ต่อมาทั้งคู่วางแพลนแต่งงานกันอย่างจริงจัง และฝ่ายชายติดต่อกับออร์แกไนซ์จัดงานแต่งงาน โดยใช้ “เครดิต” ของฝ่ายชาย รวมเฉพาะค่าจัดงานแต่งงานประมาณ 3.5 ล้านบาท
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม “น.ส.ดา” และ “นายเท็น” จัดงานที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในบุรีรัมย์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น แต่แล้วหลังจากนั้น “น.ส.ดา” ถูกสามีตามกฎหมาย เบี้ยวไม่ช่วยจ่ายค่าแต่งงาน แม้ทวงถามฝ่ายชายให้จ่ายตามสัญญาก็ถูกผัดผ่อนไปนับสิบครั้ง จึงเดินทางไปแจ้งความเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ สน.สุทธิสาร
ขณะที่สามีอ้างว่าจะคืนให้ในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินจนท้ายที่สุด เมื่อ 1 ต.ค.ทั้งคู่เดินทางไปจดทะเบียนหย่าขาดจากกัน และ “น.ส.ดา” เข้าร้องเรียนปรึกษาทนายความหาช่องทางตามกฎหมาย เพราะเดือดร้อนหนักจากการถูกทวงถามค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน
ด้านเจ้าของโรงแรมดังบุรีรัมย์บอกว่า เจ้าบ่าวหมื่นล้านมาติดต่อเช่าสถานที่และอาหารโรงแรม พร้อมทีมออร์แกไนซ์จากกรุงเทพฯ จัดงานแต่งหรูหราอลังการ แต่ไม่จ่ายค่ามัดจำอ้างรอเงินจากหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำไทย-ฮ่องกง เสร็จงานกลับเบี้ยวไม่จ่ายติดต่อไม่ได้ มีเพียงเจ้าสาวพาแม่มาขอผ่อนจ่ายค่าเช่าสถานที่และอาหารงบประมาณทั้งหมดกว่า 400,000 บาท ส่วนตัวก็อยากฝากถึงฝ่ายเจ้าบ่าวน่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง