กรุงเทพ 1 ต.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.8 ส่วนปี 2563 ยังมีความเสี่ยงอาจโตต่ำกว่าร้อยละ 3 ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้หนุนจีดีพีร้อยละ 0.02
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากเดิมร้อยละ 3.1 สาเหตุจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ตัวเลขส่งออกของไทยในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมาหดตัวมากกว่าคาด โดยหดตัวหลายกลุ่มสินค้าและเกือบทุกตลาด ทำให้การส่งออกปีนี้มีโอกาสติดลบร้อยละ 1 ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้ช่วยหนุนจีดีพีประมาณร้อยละ 0.02 เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยอยู่แล้ว
สำหรับเศรษฐกิจปี 2563 จีดีพีมีโอกาสโตต่ำกว่าร้อยละ 3 จากปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่มีอยู่มาก โดยเฉพาะสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่ลากยาว ทำให้การส่งออกยังคงหดตัวมากขึ้น คาดหดตัวร้อยละ 2 และค่าเงินบาทยังแข็งค่าจากการเกินดุลการค้าของไทย และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังลดดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า
อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ภาครัฐจะต้องมีมาตรการการคลังเพิ่มเติม เพื่อรองรับความเปราะบางของเศรษฐกิจ เสนอแนะให้รัฐบาลเน้นไปที่การดูแลแรงงานที่ไม่มีหลักประกันทางสังคมรองรับ เช่น กลุ่มอาชีพอิสระถึงเอสเอ็มอีที่ยอดขายชะลอตัวลง หลังจากพบว่าเศรษฐกิจชะลอตัวกระทบเลิกจ้างมากขึ้น โดยจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนไทย พบว่าสถานประกอบลดเวลาการทำ OT ร้อยละ 8.9 ชะลอรับพนักงานใหม่ร้อยละ 25.4 และเลิกจ้างร้อยละ 4.5 โดยเฉพาะภาคการผลิต ส่วนมาตรการทางการเงินนั้น คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งปีนี้ และ ปี 2563 ลดลงอีก 1 ครั้ง
ด้านนายศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า สงครามการค้าสหรัฐจีนจะกระทบการส่งออกของไทยเพิ่มเติมอีก 1,000 – 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีนี้ที่ส่งออกไทยได้รับผลกระทบแล้ว 2,100-3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การผลิตของจีน
ส่วนสถานการณ์ Bexit โดยมีความเป็นไปได้สูงที่สหราชอาณาจักรคงต้องออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง (No Deal ) โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรอาจจะถดถอยปี 2563 ขณะที่เงินปอนด์จะมีความผันผวนสูง ผลจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น เพราะราคาสินค้าจะแพงขึ้นจากภาษีที่สูงขึ้น ส่วนผลกระทบต่อส่งออกไทยคงไม่มาก เพราะสัดส่วนการส่งออกไปสหราชอาณาจักรไม่ถึงร้อยละ 2 ของการส่งออกทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย