นายอดิศักดิ์ จงจิระศิริผู้จัดการทีมฯ และนายวรยุทธ์ สุวรรณสว่าง ผช.ผู้จัดการทีมฯ เข้าเยี่ยมชมการฝึกซ้อมนักกีฬาปันจักสีสัตทีมชาติไทย อยู่ที่ฝึกซ้อมอยู่ที่ชายหาดป้าตอง จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 30ก.ย.ที่ผ่านมานักกีฬาจากทั่วโลกจะเดินทางถึงจังหวัดภูเก็ตและเตรียมตัวแข่งขันในวันที่ 1-4 ต.ค. โดยพิธีเปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ
โดยการจัดการแข่งขันครั้งนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติอย่างสูงจากสหพันธ์กีฬาปีนจักสีลัตนานาชาติให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานจัดการแข่งขันกีฬาปีนจักลัตชายหาดชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ในระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคมนี้ ณ ลานโลมาหาดปาตองจังหวัดภูเก็ต หลังจากที่เคยได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินงานจัดการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตชิงแชมป์โลกมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน คือ ครั้งแรก ณ โรงยิมส์
สุวรรณวงศ์ อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาปี 1994 ครั้งที่ 2ณโรงยิมส์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย ปี 2012 และครั้งที่ 3 ณโรงยิมส์ 400 ที่นั่งสนามกีฬาสะพานหินจังหวัดภูเก็ตปี 2016 ทุกครั้งที่สมาคมฯ ดำเนินงานจัดการแข่งขัน จะประสบความสำเร็จแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการแข่งขัน การร่วมมือจากประเทศทั่วโลกที่ส่งนักกีฬาเข้ามาร่วมการแข่งขัน รวมทั้งผลสัมฤทธิ์จากการแข่งขันของนักกีฬาไทย
“กีฬาปันจักสีลัตชายหาด เป็นกีฬาที่มีการแข่งขันเหมือนกับกีฬาปันจักสีลัตในร่มแต่มีการแข่งขันบนสนามทราย นักกีฬาสามารถใส่แว่นพลาสติกเพื่อป้องกันอันตรายจากทรายเข้าดวงตาการแข่งขันในครั้งนี้มีการชิงชัยด้วยกันถึง 25 เหรียญทอง โดยแข่งขันประเภทการต่อสู้ชาย 11เหรียญทอง หญิง 8 เหรียญทองและในประเภทปันจักลีลาชาย 3 เหรียญทอง และหญิง 3 เหรียญทอง”
นายภาณุ อุทัยรัตน์นายกสมาคมกีฬาปันจักลัตแห่งประเทศไทยมีนโยบายในการสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนากีฬาปันจักสีลัตในประเทศไทยโดยตั้งเป้าหมายให้ไทยก้าวกระโดดขึ้นไปเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการกีฬาปันจักสีลัตโลกแบบครบวงจรทั้งด้านการบริหารจัดการและความสำเร็จจากการแข่งขันของนักกีฬาการแข่งขันในครั้งนี้คาดว่ามีนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลกไม่ต่ำกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน
“นอกเหนือจากการแข่งขันในเชิงชั้นการกีฬา นายภาณุ อุทัยรัตน์ ประมุขแห่งสมาคมกีฬปันจักลัตแห่งประเทศไทยผู้ดำริให้มีการแข่งขันรายการนี้ยังมองเห็นถึงมิติของการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย”
นายภาณุ อุทัยรัตน์ กล่าวเสริมว่า กีฬาปันจักสีลัตเปรียบสมือนสะพานที่เชื่อมโยงทางวัฒนธรรมของทุกชนชั้นจากทั่วโลกและเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักด้วย.สำนักข่าวไทย