คลังยืนยัน “ชิมช้อปใช้” ระบบไม่ล่ม

ก.คลัง 30 ก.ย. – มาตรการชิมช้อปใช้ 3 วันแรกมีผู้ใช้สิทธิ์ 370,523 ราย วงเงินใช้จ่ายรวม 294 ล้านบาท ตัดสิทธิ์ร้านค้า 350 แห่ง ย้ำไม่เอื้อนายทุนรายใหญ่ ส่วนใหญ่ผู้ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้ารายย่อย ชุมชน แนะห้าง เอกชนบริหารจัดการระบบชำระเงิน เพื่อความสะดวกลูกค้า 



นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)  ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 วันแรก มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการชิมช้อปใช้เต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน  เฉลี่ยใช้เวลาหลังเที่ยงคืน 3 ชั่วโมง ระบบใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันทำการ (ไม่นับวันหยุด) และเมื่อได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์และยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” แล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันถัดไป ยอมรับว่าระบบการสมัครยืนยันตัวตนค่อนข้างยุ่งยากซ้ำซ้อน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสวมสิทธิ์ และหากสแกนใบหน้า 3 ครั้งแล้วยังใช้งานไม่ได้ให้เดินทางไปยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย   


“การใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” ขอให้เปิด location ทุกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนว่าได้เดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อใช้สิทธิ์ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน สำหรับผู้ลงทะเบียน เมื่อได้รับ SMS ว่าลงทะเบียนไม่ผ่านสามารถกลับมาลงทะเบียนใหม่อีกรอบได้ เพราะไม่ได้ปิดกั้น เนื่องจากลงทะเบียนตรงกับทะเบียนบ้าน หรือผิดเงื่อนไขที่กำหนด การลงทะเบียนยังไม่สิ้นสุด เพราะการลงทะเบียนแต่ละวัน เมื่อทำการตรวจสอบคุณสมบัติมีผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบ 200,000-300,000 ราย ผู้ไม่ผ่านจึงกลับมาลงทะเบียนได้อีกรอบ” นายลวรณ กล่าว

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23 – 26 กันยายน 2562 มีผู้ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ 3.1 ล้านราย วันที่ 27 -29 กันยายน  2562 รวม 3 วัน มีผู้เริ่มไปใช้สิทธิ์แล้ว 370,523 ราย  มียอดการใช้จ่าย 294 ล้านบาท พบว่า ชาวบ้านกว่าร้อยละ 50 ของการใช้จ่าย หรือเป็นเงิน 148 ล้านบาท  ได้ใช้จ่ายในร้านประเภท  “ช้อป”  เป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ รองลงมา คือ ร้าน “ชิม”หรือร้านอาหารและเครื่องดื่ม  ยอดใช้จ่าย  60 ล้านบาท  ส่วนร้านประเภท “ใช้” เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ และสาขาเกี่ยวข้องกับบริการท่องเที่ยวมียอดใช้จ่าย   7 ล้านบาท 

ส่วนการซื้อสินค้าในร้านค้าทั่วไป หรือห้างสรรพสินค้า มียอดใช้จ่าย  79 ล้านบาท จึงถือว่าการใช้เงินสำหรับชิมช้อปใช้ส่วนใหญ่กระจายไปยังร้านค้ารายย่อย เนื่องจากกำหนดให้ชำระเงินด้วยแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” กระเป๋า  1 วงเงิน 1,000 บาทจากรัฐบาล  ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีของร้านค้าไม่เกินเวลา 21.00 น. ของวันทำการถัดไป ส่วนกระเป๋า ช่อง 2  เป็นจำนวนเงินประชาชนเติมเข้ามาเอง โอนเข้าบัญชีของร้านค้าในวันถัดไปไม่เกินเวลา 06.30 น. ของทุกวัน


โฆษกกระทรวงการคลัง  ย้ำว่า ระบบการชำระเงินระหว่าง “ถุงเงิน” และ “เป๋าตัง” สามารถใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาระบบล่มตามที่ปรากฏเป็นข่าวในโซเชียล เพราะระบบยังให้บริการได้ตามปกติ แต่ปัญหาการต่อคิวยาวเพื่อชำระเงินในห้างสรรพสินค้ากำหนดเงื่อนไขการลงทะเบียนร้านค้า “ถุงเงิน” 1 ร้านค้า หรือบริษัท ห้างสรรพสินค้า 1 แห่ง เลือกพื้นที่บริการชำระเงินรวมกัน 20 จุด ภายใน 1 จังหวัด และเลือกได้เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น แต่หากร้านเอกชนเลือกจุดขายสินค้า ทั้ง 20 สาขา จึงมีจุดชำระเงินได้เพียง 1 จุด จึงมีปัญหาการชำระเงินต่อแถวยาว ห้างสรรพสินค้าหรือร้านเอกชนขนาดใหญ่ จึงต้องบริหารจัดการรองรับการชำระเงินของลูกค้าให้สะดวกมากที่สุด

นายลวรณ กล่าวว่า เจตนาของรัฐบาลต้องการอำนวยความสะดวกให้ร้านกลุ่ม “ชิมช้อปใช้” เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังเศรษฐกิจฐานรากให้ได้มากที่สุด  สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ควรลดจำนวนสาขาร่วมโครงการและปรับเพิ่มจุดรับชำระเงินให้เพียงพอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ ส่วนร้านอาหารใน จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยเข้าไปทำความเข้าใจแล้ว คาดว่าคงตัดสินใจร่วมโครงการเหมือนเดิม หลังจากเข้าใจคลาดเคลื่อน นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ตัดสิทธิ์ร้านค้าที่ขายสินค้าผิดวัตถุประสงค์ หรือรับแลกเงินสด  350 ร้านค้า จึงขอความร่วมมือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติให้ถูกต้อง เพราะประชาชนกำลังโหลดแอปเป๋าตัง เพื่อออกไปใช้จ่ายเงิน นับเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]