สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 27 ก.ย.- สหภาพ ปตท. ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ -ศาลปกครอง วินิจฉัย กฟผ.นำเข้าก๊าซ LNG จากมาเลย์ ตามมติ กบง. ขัดรัฐธรรมนูญ ผิดพ.ร.บ.กฟผ.หรือไม่ หวั่นประชาชนเดือดร้อนจ่ายเพิ่มค่าไฟ เปิดช่องเอกชนนำเข้าพลังงานได้
เมื่อเวลา 13.30 น. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ปตท.จำกัด มหาชน นำโดย น.ส.อัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหภาพฯ และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทปตท. เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและมีความเห็นเสนอศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัย ว่า การที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ
กบง.อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้ามาประกอบธุรกิจซื้อขายและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG จากเดิมที่บริษัท ปตท. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการซื้อและนำเข้าก๊าซดังกล่าวเพียงรายเดียวเข้าข่ายเป็นการละเมิด พ.ร.บ.จัดตั้ง กฟผ. และขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 75 วรรคสอง ที่กำหนดห้ามมิให้รัฐและนิติบุคคลมหาชนเข้าประกอบกิจการในทางธุรกิจที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับเอกชนอย่างชัดเจนหรือไม่
น.ส.อัปสร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีมติให้ปตท.เป็นผู้ดำเนินการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวดังกล่าว โดย ปตท.ได้ใช้งบประมาณมหาศาลลงทุนในการสร้างท่าเทียบเรือ ท่อขนส่ง ถังเก็บ และมีการจัดหาก๊าซดังกล่าวจากแหล่งต่าง ๆ มาให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้ทั้งประเทศ ซึ่งปี 58 เกิดสถานการณ์ปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองในอ่าวไทยลดลง เพราะความไม่แน่นอนในการต่อสัญญาหรือเปิดประมูลใหม่ก๊าซธรรมชาติในแหล่งบงกช และเอราวัณ ทาง กฟผ.ก็รายงานการประเมินความจำเป็นของการใช้ ก๊าซธรรมชาติเหลวในอนาคต ว่าประเทศอาจจะต้องใช้เพิ่มอีกปีละ 9 ล้านตัน หากขาดแคลนจะกระทบกับการผลิตไฟฟ้า ทาง กบง.จึงอนุญาตให้ กฟผ.เตรียมการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นโดยไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี
น.ส.อัปสร กล่าวว่า ต่อมาสถานการณ์เปลี่ยน ก๊าซธรรมชาติเหลวในอ่าวไทยมีอยู่เพียงพอ แต่ กบง.ก็ยังมีมติเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ให้ กฟผ.ลงนามสัญญานำเข้าก๊าชธรรมชาติเหลวจากบริษัทปิโตรนาสของประเทศมาเลเซีย เต็มจำนวน 1.5 ล้านตัน ทำให้ประชาชนอาจต้องแบกรับผลกระทบจากปรับขึ้นค่าไฟหน่วยละ 2 สตางค์ ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบ พ.ร.บ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 6 กำหนดวัตถุประสงค์การดำเนินกิจการไว้ 4 ข้อ ซึ่งไม่มีเรื่องของการจัดหาก๊าซธรรมชาติ จึงเห็นว่าการนำเข้าก๊าซของ กฟผ.ตามมติ กบง.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
“ความเสียหายที่จะเกิดชึ้นกับ ปตท.เราไม่ทราบว่าจะมีมูลค่าเท่าไร แต่บอกได้ว่าเสียหายเยอะ เพราะเราลงทุนไปมาก รัฐบาลไม่ได้ช่วยซักบาท เราไม่ได้มีปัญหากับ กฟผ.แต่กังวลว่า ถ้ากฟผ.ทำได้ ต่อไปก็จะมีภาคเอกชนอื่นเข้ามาเสียบทีหลังมากกว่า” น.ส.อัปสร กล่าว .-สำนักข่าวไทย