“ปริญญา” ชี้ปัญหาเลือกตั้ง 62 อยู่ที่ระบบจัดสรรปันส่วนผสม

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  26 ก.ย.-“ปริญญา” เปิดผลวิจัย ชี้ปัญหาเลือกตั้ง 62 อยู่ที่ระบบจัดสรรปันส่วนผสม แนะแก้ที่ตัวกฎหมายลูกง่ายกว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญ


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำวิจัย เรื่องปัญหาของระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 และปัญหาการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยเก็บข้อมูลวันเลือกตั้งจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จแล้ว 3,250 คน ใน 4 ภาค 20 จังหวัด และเก็บข้อมูลจากผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 73 คนจาก 40 พรรคการเมือง รวมถึงสอบถามกับผู้ปฏิบัติงานสำนักงาน กกต. จังหวัด , สำนักงาน กกต.เขต , กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง สัมภาษณ์เชิงลึกผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ 5 พรรคการเมือง จึงแยกสรุปวิเคราะห์ผลการศึกษาเป็น 5 เรื่องที่ต้องนำไปแก้ไข

โดยนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาแรก คือ ระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าการเลือกตั้งแบบ 2 ใบ และเป็นปัญหาที่วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 91 ที่สามารถตีความว่ามีมากกว่า 1 วิธี จนเกิดข้อถกเถียง ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือที่ประชาชนมีต่อ กกต. และที่ยุ่งยากไปกว่านั้น คือ การใช้คะแนนแบบแบ่งเขต กำหนด ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งใหม่ หรือเลือกตั้งซ่อม เช่น กรณีการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทรักธรรมเป็น ส.ส.ได้เพียง 3 วัน จุดนี้อาจทำให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นปัญหาอยู่บ้าง จึงกำหนดให้คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมทำแค่ช่วง 1 ปีแรก


นายปริญญา กล่าวอีกว่า ขณะที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อแต่ละพรรคได้ หากเขตที่มีสิทธิเลือกตั้ง พรรคที่ชอบไม่ส่งผู้สมัครในเขตนั้น ส่วนผู้ที่ตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งส่วนมากจะตัดสินใจเลือกพรรค แม้ไม่ชอบผู้สมัครแบบแบ่งเขต และยังพบเรื่องปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองระหว่างผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เพราะผู้สมัครแบบแบ่งเขตจะต้องลงพื้นที่หนัก ส่วนผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่ออยากได้คะแนนจากเขตมาก เพราะมีผลต่อการคำนวณบัญชีรายชื่อ โดยพบว่า พรรคอนาคตใหม่มีปัญหานี้มากที่สุด เพราะมี ส.ส.บัญชีรายชื่อมากที่สุดและมากกว่า ส.ส.เขต แต่พรรคที่ไม่มีปัญหานี้คือพรรคเพื่อไทย

นายปริญญา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จำนวนผู้สมัคร ส.ส.เขตที่มากเกินไป ก็มีปัญหาในการจัดการเลือกตั้ง เพราะระบบการเลือกตั้งที่นำคะแนนแบบแบ่งเขตมาคำนวณ ทำให้พรรคการเมืองที่มีทุนมากพอ จะส่งผู้สมัครมากที่สุด หรือส่งทุกเขตเลือกตั้ง ส่งผลให้จำนวนผู้สมัครแบบแบ่งเขตในการเลือกตั้งปี 2562 เพิ่มขึ้น 4.5 เท่า จากปี 2554 รวมถึงยังพบปัญหาเรื่องหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขตพรรคเดียวกัน แต่ต่างกันและยังพบว่าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีพรรคการเมืองขนาดเล็กเกิดขึ้นมากเกินไป ส่งผลให้ปัญหาการซื้อเสียงกลับมา ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้เงินมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทุกคะแนนมีความหมาย การออกแบบของ กรธ.ที่ต้องการให้การเลือกตั้งลดการซื้อเสียง กลับได้ผลตรงกันข้าม ซึ่งรูปแบบพฤติกรรมการซื้อเสียงเปลี่ยนไป เช่น หัวคะแนนทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมรายชื่อไปขอเงิน อยู่ที่หัวละ 700-1,000 บาท และหลายพื้นที่หัวคะแนนมีการหักเงินไว้ 100-200 บาท

นายปริญญา กล่าววอีกว่า ปัญหาเรื่องการจัดการเลือกตั้ง พบมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 และระเบียบหลายฉบับของ กกต. เช่น บัตรเลือกตั้ง ที่สร้างความสับสน ตัวหนังสือเล็กลง จากผู้สมัครแบบแบ่งเขตที่มีมากกว่า 4 เท่า และช่องกากบาทลงคะแนนอยู่ห่างจากหมายเลข ทำให้ลงคะแนนผิดช่องที่เป็นเครื่องหมายพรรค ส่งผลให้มีบัตรเสีย เช่นเดียวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้เกิดปัญหาหลายพื้นที่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความไม่สะดวก ส.ส.เก่าไม่มีฐานเสียง ขณะที่ปัญหาการขยายเวลาการปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้การนับคะแนนต้องขยับเวลาออกไป ในพื้นที่กันดารจะมีปัญหามาก เป็นต้น 


นายปริญญา ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนวทางแก้ไขในการจัดการเลือกตั้ง 2562 ว่า เมื่อสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา คือ ระบบการเลือกตั้ง ควรต้องมีการแก้ไข ส่วนจะแก้ไปสู่ระบบใด เช่น ใช้ระบบเดิม มีบัตร 2 ใบ หรือ ระบบเยอรมัน ก็ต้องไปพิจารณา พร้อมเห็นว่าควรมีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้พรรคการเมืองเป็นหมายเลขเดียวกัน ควรให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดอย่างเดียว ปรับให้มีบัตรเสียน้อยลง เวลาปิดหน่วยเลือกตั้งควรกลับมาที่เวลา 15.00 น. ไม่ควรเกิน 16.00 น. เปลี่ยนผู้ตรวจการเลือกตั้งไปเป็น กกต.จังหวัด โดยให้มีแค่ช่วงเลือกตั้ง รวมถึงยกเลิกระเบียบหยุมหยิมยิบย่อยของ กกต.ที่เป็นอุปสรรคทั้งหลาย ทั้งนี้เห็นว่า การจะแก้ไขระบบเลือกตั้ง หากจะใช้วิธีแก้รัฐธรรมนูญ คงเป็นเรื่องยาก เพราะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่มีท่าทีเรื่องนี้ แต่มีความเป็นไปได้หากจะแก้ที่ พ.ร.บ.หรือระเบียบจะง่ายกว่า

“การเลือกตั้งปี 62 มีปัญหามากที่สุด ผลมาจากระบบเลือกตั้ง ใช้คะแนน ส.ส.เขต มาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องบัตรเลือกตั้งใหม่ 350 เขตไม่เหมือนกันเลย ผู้ใช้สิทธิต้องใช้เวลารอนานในการเลือกตั้งล่วงหน้า เกิดการผิดพลาดในการส่งบัตรให้ผู้ใช้สิทธิไม่ตรงกับเขตของตัวเอง กลายเป็นบัตรเสียจำนวนไม่น้อย และต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เหล่านี้ควรแก้ไขก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย