“ปริญญา” ชี้ปัญหาเลือกตั้ง 62 อยู่ที่ระบบจัดสรรปันส่วนผสม

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  26 ก.ย.-“ปริญญา” เปิดผลวิจัย ชี้ปัญหาเลือกตั้ง 62 อยู่ที่ระบบจัดสรรปันส่วนผสม แนะแก้ที่ตัวกฎหมายลูกง่ายกว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญ


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำวิจัย เรื่องปัญหาของระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 และปัญหาการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยเก็บข้อมูลวันเลือกตั้งจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จแล้ว 3,250 คน ใน 4 ภาค 20 จังหวัด และเก็บข้อมูลจากผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 73 คนจาก 40 พรรคการเมือง รวมถึงสอบถามกับผู้ปฏิบัติงานสำนักงาน กกต. จังหวัด , สำนักงาน กกต.เขต , กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง สัมภาษณ์เชิงลึกผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ 5 พรรคการเมือง จึงแยกสรุปวิเคราะห์ผลการศึกษาเป็น 5 เรื่องที่ต้องนำไปแก้ไข

โดยนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาแรก คือ ระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าการเลือกตั้งแบบ 2 ใบ และเป็นปัญหาที่วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 91 ที่สามารถตีความว่ามีมากกว่า 1 วิธี จนเกิดข้อถกเถียง ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือที่ประชาชนมีต่อ กกต. และที่ยุ่งยากไปกว่านั้น คือ การใช้คะแนนแบบแบ่งเขต กำหนด ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งใหม่ หรือเลือกตั้งซ่อม เช่น กรณีการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทรักธรรมเป็น ส.ส.ได้เพียง 3 วัน จุดนี้อาจทำให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นปัญหาอยู่บ้าง จึงกำหนดให้คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมทำแค่ช่วง 1 ปีแรก


นายปริญญา กล่าวอีกว่า ขณะที่ประชาชนไม่สามารถเลือกผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อแต่ละพรรคได้ หากเขตที่มีสิทธิเลือกตั้ง พรรคที่ชอบไม่ส่งผู้สมัครในเขตนั้น ส่วนผู้ที่ตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งส่วนมากจะตัดสินใจเลือกพรรค แม้ไม่ชอบผู้สมัครแบบแบ่งเขต และยังพบเรื่องปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองระหว่างผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เพราะผู้สมัครแบบแบ่งเขตจะต้องลงพื้นที่หนัก ส่วนผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่ออยากได้คะแนนจากเขตมาก เพราะมีผลต่อการคำนวณบัญชีรายชื่อ โดยพบว่า พรรคอนาคตใหม่มีปัญหานี้มากที่สุด เพราะมี ส.ส.บัญชีรายชื่อมากที่สุดและมากกว่า ส.ส.เขต แต่พรรคที่ไม่มีปัญหานี้คือพรรคเพื่อไทย

นายปริญญา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จำนวนผู้สมัคร ส.ส.เขตที่มากเกินไป ก็มีปัญหาในการจัดการเลือกตั้ง เพราะระบบการเลือกตั้งที่นำคะแนนแบบแบ่งเขตมาคำนวณ ทำให้พรรคการเมืองที่มีทุนมากพอ จะส่งผู้สมัครมากที่สุด หรือส่งทุกเขตเลือกตั้ง ส่งผลให้จำนวนผู้สมัครแบบแบ่งเขตในการเลือกตั้งปี 2562 เพิ่มขึ้น 4.5 เท่า จากปี 2554 รวมถึงยังพบปัญหาเรื่องหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขตพรรคเดียวกัน แต่ต่างกันและยังพบว่าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีพรรคการเมืองขนาดเล็กเกิดขึ้นมากเกินไป ส่งผลให้ปัญหาการซื้อเสียงกลับมา ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้เงินมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทุกคะแนนมีความหมาย การออกแบบของ กรธ.ที่ต้องการให้การเลือกตั้งลดการซื้อเสียง กลับได้ผลตรงกันข้าม ซึ่งรูปแบบพฤติกรรมการซื้อเสียงเปลี่ยนไป เช่น หัวคะแนนทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมรายชื่อไปขอเงิน อยู่ที่หัวละ 700-1,000 บาท และหลายพื้นที่หัวคะแนนมีการหักเงินไว้ 100-200 บาท

นายปริญญา กล่าววอีกว่า ปัญหาเรื่องการจัดการเลือกตั้ง พบมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 และระเบียบหลายฉบับของ กกต. เช่น บัตรเลือกตั้ง ที่สร้างความสับสน ตัวหนังสือเล็กลง จากผู้สมัครแบบแบ่งเขตที่มีมากกว่า 4 เท่า และช่องกากบาทลงคะแนนอยู่ห่างจากหมายเลข ทำให้ลงคะแนนผิดช่องที่เป็นเครื่องหมายพรรค ส่งผลให้มีบัตรเสีย เช่นเดียวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้เกิดปัญหาหลายพื้นที่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความไม่สะดวก ส.ส.เก่าไม่มีฐานเสียง ขณะที่ปัญหาการขยายเวลาการปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้การนับคะแนนต้องขยับเวลาออกไป ในพื้นที่กันดารจะมีปัญหามาก เป็นต้น 


นายปริญญา ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนวทางแก้ไขในการจัดการเลือกตั้ง 2562 ว่า เมื่อสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา คือ ระบบการเลือกตั้ง ควรต้องมีการแก้ไข ส่วนจะแก้ไปสู่ระบบใด เช่น ใช้ระบบเดิม มีบัตร 2 ใบ หรือ ระบบเยอรมัน ก็ต้องไปพิจารณา พร้อมเห็นว่าควรมีการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้พรรคการเมืองเป็นหมายเลขเดียวกัน ควรให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดอย่างเดียว ปรับให้มีบัตรเสียน้อยลง เวลาปิดหน่วยเลือกตั้งควรกลับมาที่เวลา 15.00 น. ไม่ควรเกิน 16.00 น. เปลี่ยนผู้ตรวจการเลือกตั้งไปเป็น กกต.จังหวัด โดยให้มีแค่ช่วงเลือกตั้ง รวมถึงยกเลิกระเบียบหยุมหยิมยิบย่อยของ กกต.ที่เป็นอุปสรรคทั้งหลาย ทั้งนี้เห็นว่า การจะแก้ไขระบบเลือกตั้ง หากจะใช้วิธีแก้รัฐธรรมนูญ คงเป็นเรื่องยาก เพราะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่มีท่าทีเรื่องนี้ แต่มีความเป็นไปได้หากจะแก้ที่ พ.ร.บ.หรือระเบียบจะง่ายกว่า

“การเลือกตั้งปี 62 มีปัญหามากที่สุด ผลมาจากระบบเลือกตั้ง ใช้คะแนน ส.ส.เขต มาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องบัตรเลือกตั้งใหม่ 350 เขตไม่เหมือนกันเลย ผู้ใช้สิทธิต้องใช้เวลารอนานในการเลือกตั้งล่วงหน้า เกิดการผิดพลาดในการส่งบัตรให้ผู้ใช้สิทธิไม่ตรงกับเขตของตัวเอง กลายเป็นบัตรเสียจำนวนไม่น้อย และต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เหล่านี้ควรแก้ไขก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

เชียงใหม่เตรียมรับมือพายุบัวลอย

เชียงใหม่ 28 ก.ย.- เชียงใหม่เร่งระบายน้ำปิงต่อเนื่อง เตรียมรับมือพายุบัวลอย จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ขณะที่ชาวบ้านจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง แห่ขนกระสอบทรายมากั้น ป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้าน เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบข่าวพายุบัวลอย ประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ พากันนำรถยนต์ ไปขนกระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะรถไฟ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกระสอบทรายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นำมาแจกให้ฟรี กว่า 25,000 ใบ โดยมีทหารจิตอาสา จากค่ายกาวิละ ไปช่วยตักทรายใส่กระสอบ แต่ประชาชนมีจำนวนมาก บางรายก็ตักทรายกันเอง เอาใส่กระสอบ และทยอยขนขึ้นใส่รถอย่างเร่งรีบ เพื่อนำกระสอบทรายไปกั้น ป้องกันน้ำจะทะลักเข้าบ้าน ขณะที่เวลา 24.00 น. ระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ อยู่ที่ความสูง 3.92 เมตร แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทางจังหวัดยืนยันว่าตลิ่งสามารถป้องกันได้ถึง 4.20 เมตร จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำเท่านั้น ที่อาจได้รับผลกระทบ ล่าสุดเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เขตพื้นที่เมืองเชียงใหม่ จนถึงประตูระบายน้ำแม่สอย ที่เป็นตัวสุดท้ายของลำน้ำปิง โดยที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ได้มีการยกบานพ้นน้ำทั้ง 6 […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนใต้อาคาร สน.สามเสน “พิพัฒน์” คาดคืนผิวจราจร 8 ต.ค.

28 ก.ย.- จนท.เร่งเทปูนทำฐานรากใต้อาคาร สน.สามเสน ให้สูงถึงระดับเสาเข็มที่ขาดไป และจะใช้เครนขนาดใหญ่ยกวัสดุสิ่งของในหลุมขึ้นมา ก่อนถมดิน-หินคลุก เพื่อคืนพื้นผิวถนน ด้าน “พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า หวังทุกอย่างเป็นตามเป้าหมาย คืนผิวจราจรได้ 8 ต.ค.นี้ -สำนักข่าวไทย