BIG STORY : คุมตัว “น้ำอุ่น” ชี้จุดบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง

กทม. 25 ก.ย.-ตำรวจคุมตัว “น้ำอุ่น” ชี้จุดบ้านปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง คลี่คลายสาเหตุการตายพริตตี้สาว “ลันลาเบล” ยันไม่มีเจตนาจะทำให้ถึงแก่ความตาย

นี่เป็นภาพวินาทีขณะที่ตำรวจนครบาล 8 และตำรวจ สน.บุคคโล เข้าจับกุมนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ได้ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเมื่อเวลา 01.30 น.ที่ผ่านมา บนถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ระหว่างขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านพักของพ่อและแม่ที่ย่านบางบอน และมาจอดแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าว ตำรวจจึงแสดงหมายจับ พร้อมแจ้งข้อหาให้นายรัชเดชรับทราบ และคุมตัวไปสอบสวน


วันนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (ผบก.น.8) เดินทางมาสอบสวนเพื่อคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบล พริตตี้สาววัย 25 ปี ด้วยตนเอง พร้อมแถลงผลการจับกุมน้ำอุ่น

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำอนาจาร และกระทำอนาจาร ซึ่งน้ำอุ่นได้ให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่าเป็นบุคคลตามที่ปรากฏในภาพถ่ายในโซเชียลและคลิปวงจรปิดคอนโดฯ แต่ไม่มีเจตนาจะทำให้ลันลาเบลถึงแก่ความตาย ส่วนเหตุผลที่ไม่พาไปโรงพยาบาล เพราะคิดว่าลันลาเบลเมาจนหมดสติไปเท่านั้น ซึ่งน้ำอุ่นมาทราบหลังจากญาติพี่น้องติดต่อมาบอกว่าลันลาเบลเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หากเชื่อมโยงบุคคลใดในงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จ.นนทบุรี จะดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าการกระทำของน้ำอุ่นเข้าข่ายความผิดตามที่แจ้งข้อกล่าวหาไว้ โดยในข้อหากระทำอนาจารมีคำให้การบางประการของ น้ำอุ่นบ่งชี้ว่าลันลาเบลไม่สมัครใจที่จะไปคอนโดฯ ของน้ำอุ่น ซึ่งเป็นแรงจูงใจของน้ำอุ่นเอง ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหากับพ่อแม่น้ำอุ่น ฐานพาผู้ต้องหาหลบหนีนั้น ต้องดูที่เจตนาของพ่อแม่ว่าทราบเรื่องนายน้ำอุ่นถูกศาลออกหมายจับแล้วหรือไม่ และจากคำให้การทั้งหมดนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ ส่วนประเด็นเวลาการเสียชีวิตที่แท้จริงของลันลาเบล ทางแพทย์จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะทราบสถานที่เสียชีวิตอย่างชัดเจน


วันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) ตำรวจจะคุมตัวน้ำอุ่นไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีไม่เกิน 16.00 น. ส่วนการคัดค้านการประกัน ขอให้เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน สำหรับคดีความที่ สน.บุคคโล ยังไม่จบ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน โดยได้รับรายงานตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่ามีพริตตี้สาวที่ไปร่วมงานปาร์ตี้ในบ้านหลังดังกล่าวมาแจ้งความ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่ได้รับรายงานการตรวจพบผงเกล็ดสีขาวในงานปาร์ตี้แต่อย่างใด
 
ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ยังคงสอบปากคำน้ำอุ่นอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวมีโอกาสพูดคุยกับนายน้ำอุ่นในจังหวะที่เดินเข้าห้องน้ำ ซึ่งน้ำอุ่นก็ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน และตลอดการให้ปากคำมีทนายความของน้ำอุ่นมาร่วมรับฟังการสอบสวน และยังมีพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เดินทางมาสอบปากคำน้ำอุ่น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายรายอื่นไปแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านที่จัดปาร์ตี้ จึงต้องสอบปากคำน้ำอุ่นเพื่อนำไปประกอบสำนวน และยืนยันพฤติกรรมของคนในบ้านหลังดังกล่าว โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.30 น. ตำรวจได้คุมตัวนายน้ำอุ่นขึ้นรถตู้ของ สน.บุคคโล ไปชี้จุด เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนที่บ้านจัดปาร์ตี้  

เมื่อเดินทางมาถึงบ้านที่จัดปาร์ตี้ ตำรวจได้คุมตัวน้ำอุ่นลงจากรถไปชี้จุด โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพภายในห้อง ประมาณ 5 นาที จากนั้นได้นำตัวน้ำอุ่นกลับขึ้นรถตู้และวนกลับมาจอดบริเวณที่น้ำอุ่นอุ้มลันลาเบลขึ้นรถเพื่อชี้จุด ก่อนจะขับออกไปจากหมู่บ้าน เพื่อไปชี้จุดต่อไปที่คอนโดฯ ของน้ำอุ่น  

จากการสังเกตภายในห้องที่มีการจัดปาร์ตี้ มีการต่อเติมอาคารเป็นห้องกระจก ติดฟิล์มทึบ พร้อมทั้งติดแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีดำทับ ส่วนภายในที่เป็นห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ มีชุดโซฟาสีแดง สีม่วง และสีดำวางล้อมโต๊ะกลาง มีบาร์เหล้าเครื่องดื่มหลังโซฟาสีแดง มีไฟเลเซอร์ ซึ่งจะเปิดในช่วงจัดปาร์ตี้


ล่าสุดเมื่อเวลา 17.43 น.ที่ผ่านมา ตำรวจได้คุมตัวน้ำอุ่นกลับมาถึงที่ สน.บุคคโล โดยไม่ได้แวะไปทำแผนชี้จุดที่คอนโดฯ ของน้ำอุ่น และไม่เปิดเผยว่าจะย้อนกลับไปทำแผนที่คอนโดฯ ดังกล่าวหรือไม่

ขณะที่นายแพทย์พงศ์ธร
ชาติพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
บอกว่ารูปแบบการดื่มในปัจจุบันค่อนข้างเปลี่ยนไปมาก
หากเป็นลักษณะจัดแข่งขันดื่มกันเองที่บ้าน
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ไม่สามารถเอาผิดได้
แต่หากเป็นการดื่มในร้าน มีการเชียร์ให้ดื่ม แข่งดื่ม จัดโปรโมชั่น
ส่งเสริมการขาย อันนี้ผิดมาตรา 30 และมาตรา 32 แน่นอน
ส่วนกรณีนี้มีโทษทางอาญาร่วมด้วย
เพราะทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ด้านนายแพทย์ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเสี่ยงต่อการเกิดแอลกอฮอล์เป็นพิษ
หากดื่มเกินปริมาณส่งผลต่อประสาท การเคลื่อนไหว เสี่ยงต่อการหยุดหายใจ

นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ผอ.มูลนิธิธีรนาถ
กาญจนอักษร มองว่าคดีการเสียชีวิตของลันลาเบลมีนัยที่สำคัญต่อสังคม
รวมทั้งโลกโซเซียลต่างเรียกร้องให้หาความจริง ทำให้เราต้องลุกขึ้นมา
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องลบมายาคติของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกันระหว่างหญิงและชาย
ดังนั้น ผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองจะต้องเข้ามาจัดการ
ออกกฎหมายคุ้มครองทุกอาชีพ เพื่อให้ผู้หญิงที่มีอาชีพต่างๆ เช่น พริตตี้
ได้มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต

นางสาวเอ
(นามสมมติ) อดีตสาวเชียร์เบียร์ที่คลุกคลีกับวงการพริตตี้สายเอ็น
เปิดเผยว่า จากการได้เข้าไปสัมผัสโดยตรงและคนรอบข้าง
พบว่าวงการนี้มีความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างมาก เป็นอาชีพที่ทำเงินได้ง่าย
แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลวนลามคุกคามทางเพศ
ส่วนตัวเชื่อว่ามีจำนวนมากเลยที่ถูกคุกคาม ล่วงละเมิด ไปจนถึงถูกข่มขืน
แต่ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาบอกความจริง และก็นึกไม่ออกว่าใครจะช่วยได้
จึงทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดภาวะย่ามใจและกระทำซ้ำกับคนอื่นๆ อีก
กลายเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น

ในเวทีเสวนา “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับพฤติกรรมดื่มหนักดื่มเร็ว
และการคุกคามทางเพศ” มีการถอดบทเรียนกรณีการเสียชีวิตของพริตตี้สาวลันลาเบล
พบข้อมูลการดื่มหนัก ดื่มเร็ว ที่อาจมีการจูงใจบังคับดื่มหรือแข่งดื่ม.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สอบเครียด “น้ำอุ่น” หลังตำรวจบุกจับกลางดึก
ผบช.น.สอบ “น้ำอุ่น” ด้วยตนเอง ยังให้การภาคเสธ
ผบช.น.แถลง “น้ำอุ่น” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันไม่รู้ “ลันลาเบล” เสียชีวิต
สอบ”น้ำอุ่น”มาราธอน ก่อนพาชี้จุดประกอบสำนวน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไข ปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC)คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

นายกฯ โพสต์แสดงความยินดีประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์แสดงความยินดี ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ชนะเลือกตั้ง พร้อมทำงานเสริมสร้างมิตรภาพ เชื่อมั่นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-เกาหลี ก้าวหน้ายิ่งขึ้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ว่า “Congratulations to President Lee Jae-myung on your election victory. I look forward to working with you to strengthen Thailand’s long-standing friendship and advance our Strategic Partnership with the Republic of Korea. 🇹🇭🇰🇷 ขอแสดงความยินดีกับท่านประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ดิฉันพร้อมทำงานร่วมกับท่าน […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]