13 เครือข่าย ต่อด้านค้ามนุษย์ เรียกร้องนายกฯ ตรวจสอบการทำคดีวิคตอเรีย

ราชเทวี 25ก.ย.-13 เครือข่าย ต่อด้านการค้ามนุษย์ เตรียม ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ตรวจสอบการทำงานของกระบวนการยุติธรรม ในคดีวิคตอเรีย หลังส่อแวว ถอนหมายจับและสั่งไม่ฟ้องพ้นคดีค้ามนุษย์  อาจส่งผลต่อการจัดอันดับเทียร์ของไทย 


ตัวแทนคณะทำงานเครือข่ายองค์กรผู้หญิงและเด็ก และเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ (ANTI-HUMAN TRAFFICKING NETWORK หรือ ATN) 13 เครือข่าย ที่มีบทบาทสำคัญเชิงรุกในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และเป็นกลไกกลางเชื่อมประสานการดำเนินงานทั้งในเชิงป้องกันปัญหา การติดตามช่วยเหลือด้านคดีความ ร่วมแถลงข่าว เตรียมยื่นหนังสือต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่ ทำเนียบรัฐบาล และผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด ในคดีวิคตอเรีย ที่ส่อแววถูกยกฟ้องในคดีค้ามนุษย์และถอนหมายจับผู้เกี่ยวข้องและเจ้าของตัวจริง  ซึ่งคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผู้ทรงอิทธิพลทางการเงิน มีความสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนรวมทั้งองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และค้าประเวณีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตรวจสอบการใช้อำนาจของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ รองอัยการสูงสุด และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ไม่สามารถนำคนผิดมาลวโทษได้ 


นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว การเข้าทะลายอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ถือเป็นการทะลายแหล่งค้ามนุษย์รายใหญ่ที่สุดในรอบปีที่ผ่านมาและถือเป็นความหวังของไทยที่จะช่วยเหลือเหยื่อ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในเวทีโลก แต่เมื่อเวลาผ่านไป กระบวนการยุติธรรมของไทย กลับไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกระบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ของไทยได้เลย ประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมของไทยครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่การตีความ การค้ามนุษย์ ให้กว้างขึ้น ครอบคลุมถึงกลุ่มบอบบางมากขึ้น รวมทั้งกฎหมายการลงโทษ ต้องเร่งปรับกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง เพราะไม่อย่างนั้นกระบวนการค้ามนุษย์ทั้งหลายจะได้ใจ เพราะไม่ได้รับการลงโทษ อาจส่งผลต่อการอันดับการค้ามนุษย์อยู่ในของสรัฐอเมริการ หรือTier ได้ อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หันมาดูในเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกครั้ง 


นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวว่า คนทำงานด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน ต้องมีความเข้าใจ ในความอ่อนไหว ละอียดอ่อนด้วยเหตุทางเพศ เราต้องเข้าใจว่า คดี ทางเพศ คดีค้ามนุษย์ ผู้เสียหายคือประจักษ์พยานสำคัญที่จะสามารถเอาผิด ลงโทษผู้กระทำความผิดได้ ถ้าเราปล่อยให้ผู้เสียหาย ต่อสู้เพียงลำพัง ก็จะเป็นข้อจำกัดและข้ออ่อนในการทำงาน วิธีที่ดีที่สุด หน่วยงาน เช่น NGO หรือ GO ควรปรึกษาหารือกันเสริมพลังในการทำงานในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ผ่านมาบางกรณีผู้ที่กระทำความผิด เป็นผู้มีฐานะทางการเงินที่ดี มีหน้าที่การงานใหญ่โต ผู้เสียหายเป็นคนตัวเล็กๆ เป็นคนที่ถูกทำให้เล็กอยู่เรื่อยๆ กระบวนการยุติธรรมควรเป็นมิตรและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย ผู้รักษากฎหมายไม่ควรเลือกปฏิบัติ 

นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ  ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ กล่าวว่า จากกรณีการทะลายแหล่งค้ามนุษย์รายใหญ่ของไทย ซึ่งเป็นที่สนใจและจับตามมองทั้งในระดับประเทศและทั่วโลก เริ่มจากเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท หลังได้รับการร้องเรียนว่าสถานบริการดังกล่าวลักลอบแอบแฝงค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จากการตรวจค้น จับกุมด้วยคดีนี้เป็นคดีค้ามนุษย์และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีที่สำคัญ อีกทั้งความผิดดังกล่าวเป็นมูลฐานในความผิดฐานฟอกเงิน โดยเป็นการดำเนินคดีกับสถานบริการอาบอบนวดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีการนำหญิงบริการอายุ 18-25 ปี จำนวนกว่า 113 คน มาให้บริการภายในสถานบริการซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวแยกเป็นสัญชาติ เมียนมา (ไทยใหญ่) 96ราย สัญชาติลาว 11 ราย สัญชาติจีน (12 ปันนา) 2 ราย คนไทย 4ราย และขยายผลพบว่ามีบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดหลายคน ขณะนี้เป็นบุคคลที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งต่อมา ผู้ต้องหาในคดีสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ได้ร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์พิจารณาทบทวนความเห็นในการสั่งฟ้องคดี โดยมีการอ้างคำเบิกความพยานในคดีอาญา ที่มีการฟ้องผู้ต้องหาอื่นที่เป็นพนักงานในสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ซึ่ง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ได้ทบทวนความเห็น โดยกลับความเห็นและคำสั่งเดิม มีคำสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาได้เสนอคำสั่งดังกล่าวต่อรองอัยการสูงสุด ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีค้ามนุษย์ ซึ่งรองอัยการสูงสุดก็ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องตามที่อธิบดีอัยการสำนักงานค้ามนุษย์เสนอ จากนั้นได้ส่งความเห็นคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ แต่ปรากฏว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นยืนตามความเห็นรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง 

นี่คือเหตุผลที่ทำให้ เครือข่ายองค์กรผู้หญิงและเด็ก และเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ในการใช้ดุลพินิจกลับคำสั่งเดิมของตนเองที่เคยสั่งฟ้องเจ้าของและผู้บริหารสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท เป็นคำสั่งไม่ฟ้อง ดังนั้น จึงขอให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบขั้นตอนการออกคำสั่ง และดุลพินิจในการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ว่าเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ตลอดจนเป็นไปตามหลักการถ่วงดุลตรวจสอบดุลพินิจ และความสุจริตในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ ตลอดจนทบทวนให้พิจารณาสั่งฟ้องเจ้าของและผู้เกี่ยวข้อง ต่อไป

นางสาวชลีรัตน์ ทิมบุตร ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี AAT กล่าวว่า ในการดำเนินคดีวิคตอเรีย อาบอบนวดที่เป็นข่าวครึกโครมในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา แม้ว่าในปัจจุบันนี้ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาออกมาแล้วและผู้กระทำความผิดถูกดำเนินคดีแต่เป็นความผิดฐานค้าประเวณี ไม่ใช่ความผิดฐานค้ามนุษย์ ทั้งที่มีการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศหลายคน องค์กรเครือข่ายทั้ง 13 องค์กรจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการตรวจสอบและตั้งคณะพิจารณาในกระบวนการทำงานในคดีดังกล่าวด้วย เพื่อไม่ให้ผู้ทรงอิทธิพลทางด้านการเงิน ใช้อิทธิพลเพื่อให้ตนเองพ้นพิษ เพื่อนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมที่แท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]