“มนัญญา”บุกท่าเรือลุยตรวจวิธีนำเข้าสารพิษภาคเกษตร

กรุงเทพฯ 23 ก.ย.- “มนัญญา” บุกท่าเรือลุยตรวจกระบวนการนำเข้าสารเคมีพิษทางการเกษตร พบตัวเลขที่แจ้งนำเข้า กับตัวเลขที่นำเข้าจริงไม่ตรงกัน เก็บตรวจสอบ วอนทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแบนสารพิษดังกล่าว


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จู่โจมเข้าตรวจสอบกระบวนการนำเข้าสารเคมีอันตราย ทางการเกษตร ที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ย่านคลองเตย  โดยเจ้าหน้าที่ของทางด่านไม่ทราบล่วงหน้า 

ทันทีที่มาถึง นางสาวมนัญญา ตรงไปยังห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ ถามหาเอกสารนำเข้าสารเคมีอันตรายทางการเกษตรที่มีการนำเข้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อตรวจดูว่ามีการปฎิบัติตามขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ขออนุญาต  สุ่มเก็บตัวอย่างสาร หรือมีการปลอมปนนำสารเคมีชนิดอื่นเข้ามาหรือไม่ พบว่าทุกอย่างถูกต้อง


นางสาวมนัญญา    กล่าวว่า สารเคมีอันตรายนำเข้า 5 ชนิด เป็นกลุ่มสารกำจัดโรคพืชและกำจัดแมลง พร้อมตั้งข้อสังเกตุการนำเข้าสารเคมีที่ผู้ประกอบการนำปะปนกันมามากกว่าหนึ่งชนิดในตู้คอนเทนเนอร์เดียว จึงอยากให้แยกตู้ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ 

สำหรับสารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิดคือ พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต หลังถูกสั่งห้ามนำเข้าตั้งแต่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฎไม่พบมีการนำเข้าผ่านด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ อีก  อย่างไรก็ตาม แม้ไม่นำเข้าแล้ว  แต่สารทั้ง 3 ชนิดยังคงค้างอยู่ในสต๊อก เมื่อยังไม่มีการแบน เท่ากับปล่อยให้ยืดเวลาการขายต่อไปได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   จากนั้นคณะของ น.ส.มนัญญา  เดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ  สุ่มตรวจบริษัทเเห่งหนึ่งที่ได้รับอนุญาตนำเข้าสาร พาราควอต และไกลโฟเซต เพื่อตรวจสอบสต็อคสินค้าคงค้าง ปรากฎว่า บริษัทแห่งนี้ ไม่พบว่ามีสินค้าค้างสต๊อก  แต่จากข้อมูลพบว่าปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.)  บริษัทนำเข้าสารพาราควอต 190 ตัน ส่วนไกลโฟเซต  370 ตัน / ส่วนบริษัทในเครือนำเข้าสารพาราควอต 54 ตัน   ซึ่งสารทั้งหมดจำหน่ายต่อให้กับร้านค้า และบางส่วนอยู่ในมือเกษตรกรแล้ว  


ทั้งนี้   รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ได้ขอเอกสารการนำเข้าและปริมาณของสารเคมีอันตรายทั้ง 2 ชนิดเพื่อนำกลับไปตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร หรือไม่ เบื้องต้นพบว่าตัวเลขที่แจ้งนำเข้า กับตัวเลขที่นำเข้าจริงไม่ตรงกัน

นางมนัญญา ยอมรับว่า แค่อำนาจของรัฐมนตรีช่วย ไม่สามารถที่จะแบน 3 สารเคมีอันตรายได้ต้องอาศัยทุกภาคส่วนช่วยกัน เนื่องจากการแบน  ผู้นำเข้าและผู้เกี่ยวข้องจะเสียผลประโยชน์   ทั้งที การตรวงโรงงานวันนี้ ก็พบว่ามีสารเคมีที่สามารถทดแทน 3 สารเคมีอันตรายได้ คือสารไดคลอร์วอส และควินคอลแรก ซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน บรรจุในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร จำนวน  32,000 ลิตร 

ด้าน น.ส.คันธารัตน์ บุคลานนท์ ผู้จัดการโรงงานที่ถูกสุ่มตรวจยืนยันว่า บริษัทนำเข้าสารเคมีถูกต้องตามหมาย ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสุ่มตรวจเป็นระยะ และไม่เคยถูกคาดโทษ หรือถูกร้องเรียนเกี่ยวกับสารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่กำลังเป็นปัญหา  เกษตรกรที่สารส่วนใหญ่เป็นชาวสวนยางพารา มันสำปะหลัง และลำไย ในพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคใต้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น