เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน แจกชาวนาประสบภัยพิบัติ

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – ก.เกษตรฯ เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน แจกชาวนาประสบภัยพิบัติ เผยนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 2.58 ล้านไร่ ใน 24 จังหวัด  


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมการข้าวเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้แจกจ่ายชาวนาที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งปีนี้เกิดทั้งภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงแล้วกลับเป็นเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ทำให้นาข้าวเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้ให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจความเสียหายทุกจังหวัด เพื่อที่กระทรวงเกษตรฯ จะได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิต โดยกรมส่งเสริมการเกษตรรายงานผลสำรวจเบื้องต้นว่าฤดูเพาะปลูกปี 2562/2563 เกิดผลกระทบกับนาข้าว 24 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี รวมพื้นที่ 2,587,138 ไร่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 383,214 ราย 


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทำให้ข้าวที่อยู่ในระยะตั้งท้องเสียหาย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด  ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี คาดว่าเสียหายโดยสิ้นเชิงประมาณ 1 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงในเขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบนได้รับผลกระทบ 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย และอุตรดิตถ์ คาดว่าจะเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 400,000 ไร่ ผลกระทบดังกล่าวนอกจากทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่มีผลผลิตมาจำหน่ายแล้ว ยังจะทำให้ปริมาณข้าวของประเทศลดลง ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวนาปี ปี 2563/2564 เกิดความมั่นคงทางอาหารและความสามารถการค้าและการตลาดข้าวไทย จึงจำเป็นต้องสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีแก่เกษตรกร เพื่อนำไปปลูกทดแทนข้าวที่เสียหาย แล้วนำผลผลิตมาบริโภคในครัวเรือนและนำส่วนที่เหลือไปจำหน่ายทำให้มีรายได้ในการดำรงชีพต่อไป ขณะนี้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้แล้ว ดังนั้น เมื่อชาวนานำข้าวมาขาย หากได้ราคาต่ำกว่าที่รัฐบาลประกันรายได้จะได้รับเงินส่วนต่างครบถ้วนแน่นอน

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน เพื่อสนับสนุนแบบให้เปล่าแก่เกษตรกร 102,500 ครัวเรือน แบ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ (พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 หรือ กข15 ) 15,000 ตัน ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 62,500 ครัวเรือน ในพื้นที่ 1 ล้านไร่ 14 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือสำหรับนำไปใช้เพาะปลูกข้าวในฤดูนาปี 2563/64  ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงเตรียมไว้ 6,000 ตันให้เกษตรกรผ 40,000 ครัวเรือนในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน 11 จังหวัดสำหรับนำไปใช้เพาะปลูกข้าวในฤดูนาปรัง ปี 2563  ดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2562 – กันยายน 2563


นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ชาวนาที่จะได้รับความช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มพันธุ์ข้าวหอมมะลิและกลุ่มพันธุ์ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง ปี 2562/2563 ต่อกรมส่งเสริมการเกษตรและเป็นเกษตรกรที่แปลงปลูกข้าวเสียหายสิ้นเชิงอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย ปี 2562 ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2562 สำหรับการดำเนินการจะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 15 กิโลกรัม ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงที่ประสบภัยพิบัติไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หลังจากสำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีรายชื่อเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรส่งบัญชีรายชื่อเกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กรมการข้าว เพื่อจัดทำแผนส่งเมล็ดพันธุ์ข้าว

พร้อมกันนี้จะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าว กำกับ ดูแล ติดตามการนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ ไปเพาะปลูก ให้คำแนะนำการใช้เมล็ดพันธุ์ในอัตราปลูกที่เหมาะสม ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองให้แก่เกษตรกรเพื่อเป็นการรักษาสมดุลการผลิตข้าว

สำหรับผลผลิตข้าวของไทยแต่ละปีเฉลี่ยประมาณ 32 ล้านตันข้าวเปลือก เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 102,500 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ มีรายได้จากการจำหน่ายข้าวไม่ต่ำกว่า 8,480 ล้านบาท แยกเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ  62,500 ครัวเรือน พื้นที่ 1 ล้านไร่ ผลกระทบจากภัยพิบัติคาดว่าจะทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงเหลือไร่ละ 380 กิโลกรัม ขณะนี้ข้าวหอมมะลิราคา 16,000 บาทต่อตัน ดังนั้นเกษตรกรจะมีรายได้จากการจำหน่ายข้าวหอมมะลิไม่ต่ำกว่า 6,080 ล้านบาท  ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง  40,000 ครัวเรือน พื้นที่ 400,000 ไร่ คาดว่าได้ผลผลิตไร่ละ 750 กิโลกรัม ราคา 8,000 บาทต่อตัน ทำให้มีรายได้รวม 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ต้องเร่งประเมินควบคู่ไปด้วยว่า ผลกระทบจากภัยพิบัติทำให้ผลผลิตข้าวของไทยปีนี้ลดลงเท่าไร เพื่อรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวจากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานไปปลูก เพื่อความมั่นคงทางอาหารและความสามารถในการค้าและการส่งออกข้าวของประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย