เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน แจกชาวนาประสบภัยพิบัติ

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – ก.เกษตรฯ เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน แจกชาวนาประสบภัยพิบัติ เผยนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 2.58 ล้านไร่ ใน 24 จังหวัด  


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมการข้าวเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้แจกจ่ายชาวนาที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งปีนี้เกิดทั้งภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงแล้วกลับเป็นเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ทำให้นาข้าวเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้ให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจความเสียหายทุกจังหวัด เพื่อที่กระทรวงเกษตรฯ จะได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิต โดยกรมส่งเสริมการเกษตรรายงานผลสำรวจเบื้องต้นว่าฤดูเพาะปลูกปี 2562/2563 เกิดผลกระทบกับนาข้าว 24 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี รวมพื้นที่ 2,587,138 ไร่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 383,214 ราย 


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทำให้ข้าวที่อยู่ในระยะตั้งท้องเสียหาย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร ร้อยเอ็ด  ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี คาดว่าเสียหายโดยสิ้นเชิงประมาณ 1 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงในเขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบนได้รับผลกระทบ 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย และอุตรดิตถ์ คาดว่าจะเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 400,000 ไร่ ผลกระทบดังกล่าวนอกจากทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่มีผลผลิตมาจำหน่ายแล้ว ยังจะทำให้ปริมาณข้าวของประเทศลดลง ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวนาปี ปี 2563/2564 เกิดความมั่นคงทางอาหารและความสามารถการค้าและการตลาดข้าวไทย จึงจำเป็นต้องสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีแก่เกษตรกร เพื่อนำไปปลูกทดแทนข้าวที่เสียหาย แล้วนำผลผลิตมาบริโภคในครัวเรือนและนำส่วนที่เหลือไปจำหน่ายทำให้มีรายได้ในการดำรงชีพต่อไป ขณะนี้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้แล้ว ดังนั้น เมื่อชาวนานำข้าวมาขาย หากได้ราคาต่ำกว่าที่รัฐบาลประกันรายได้จะได้รับเงินส่วนต่างครบถ้วนแน่นอน

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว 21,000 ตัน เพื่อสนับสนุนแบบให้เปล่าแก่เกษตรกร 102,500 ครัวเรือน แบ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ (พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 หรือ กข15 ) 15,000 ตัน ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 62,500 ครัวเรือน ในพื้นที่ 1 ล้านไร่ 14 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือสำหรับนำไปใช้เพาะปลูกข้าวในฤดูนาปี 2563/64  ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงเตรียมไว้ 6,000 ตันให้เกษตรกรผ 40,000 ครัวเรือนในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน 11 จังหวัดสำหรับนำไปใช้เพาะปลูกข้าวในฤดูนาปรัง ปี 2563  ดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2562 – กันยายน 2563


นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ชาวนาที่จะได้รับความช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มพันธุ์ข้าวหอมมะลิและกลุ่มพันธุ์ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง ปี 2562/2563 ต่อกรมส่งเสริมการเกษตรและเป็นเกษตรกรที่แปลงปลูกข้าวเสียหายสิ้นเชิงอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย ปี 2562 ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2562 สำหรับการดำเนินการจะสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 15 กิโลกรัม ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงที่ประสบภัยพิบัติไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หลังจากสำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีรายชื่อเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรส่งบัญชีรายชื่อเกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กรมการข้าว เพื่อจัดทำแผนส่งเมล็ดพันธุ์ข้าว

พร้อมกันนี้จะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าว กำกับ ดูแล ติดตามการนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ ไปเพาะปลูก ให้คำแนะนำการใช้เมล็ดพันธุ์ในอัตราปลูกที่เหมาะสม ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองให้แก่เกษตรกรเพื่อเป็นการรักษาสมดุลการผลิตข้าว

สำหรับผลผลิตข้าวของไทยแต่ละปีเฉลี่ยประมาณ 32 ล้านตันข้าวเปลือก เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 102,500 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ มีรายได้จากการจำหน่ายข้าวไม่ต่ำกว่า 8,480 ล้านบาท แยกเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ  62,500 ครัวเรือน พื้นที่ 1 ล้านไร่ ผลกระทบจากภัยพิบัติคาดว่าจะทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงเหลือไร่ละ 380 กิโลกรัม ขณะนี้ข้าวหอมมะลิราคา 16,000 บาทต่อตัน ดังนั้นเกษตรกรจะมีรายได้จากการจำหน่ายข้าวหอมมะลิไม่ต่ำกว่า 6,080 ล้านบาท  ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง  40,000 ครัวเรือน พื้นที่ 400,000 ไร่ คาดว่าได้ผลผลิตไร่ละ 750 กิโลกรัม ราคา 8,000 บาทต่อตัน ทำให้มีรายได้รวม 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ต้องเร่งประเมินควบคู่ไปด้วยว่า ผลกระทบจากภัยพิบัติทำให้ผลผลิตข้าวของไทยปีนี้ลดลงเท่าไร เพื่อรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวจากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานไปปลูก เพื่อความมั่นคงทางอาหารและความสามารถในการค้าและการส่งออกข้าวของประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]