กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ธอส.เผยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีแรก 59 กว่า 75,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.93 เตรียมปล่อยสินเชื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เริ่ม 15 สิงหาคมนี้ วงเงิน 3,000 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก2559 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ว่า ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล รวมถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกระดับ ส่งผลให้ ธอส.มียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งสิ้น 75,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.93 คิดเป็น 53,925 ราย โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 43,395 ราย และมั่นใจว่าจากทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารเป็นไปตามเป้าหมาย 170,043 ล้านบาท โดยต้องปล่อยสินเชื่อให้ได้เดือนละ 12,000 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมปรับหลักเกณฑ์ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโครงการบ้านประชารัฐง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ธอส.จะดำเนิน 3 โครงการ คือ โครงการแรกเริ่มวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่ ธอส.ดำเนินการเองร่วมกับภาคเอกชน เช่น บริษัท เสนาดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการ ปรับแบบบ้านเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ โดยเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 3,000 ล้านบาท และดำเนินการบ้านเพื่อผู้สูงอายุร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วงเงิน 1,500 ล้านบาท และจะหารือกับกระทรวงการคลังดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุอีก 20,000 ล้านบาท รวม 24,500 ล้านบาท เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมนี้จะเปิดตัวฟินเทคด้วย ส่วนผลประชามติรัฐธรรมนูญจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการเดินหน้าโครงการ รวมถึงการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านของประชาชน
ทั้งนี้ สิ้นไตรมาส 2/2559 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2558 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 894,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.62 สินทรัพย์รวม 940,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.52 เงินฝากรวม 757,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.32 มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 51,483 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.76 ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31 จากสิ้นปี 2558 ซึ่ง NPL อยู่ที่ร้อยละ 5.45 ของสินเชื่อรวมและมีกำไรสุทธิ 5,158 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ร้อยละ 16.03 ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำร้อยละ 8.50 ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
นายฉัตรชัย กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน ว่า หลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ล่าสุดวันที่ 5 สิงหาคม 2559 มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 11,000 ราย และมีผู้ที่เปิดบัญชีเงินฝากตามเงื่อนไขของโครงการซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อบ้านในอนาคตกว่า 2,000 ราย
ส่วนแผนงานครึ่งปีหลัง ธนาคารยังคงมุ่งเน้นเดินหน้าตามพันธกิจหลักเพื่อให้คนไทยมีบ้าน พร้อมเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลไกขับเคลื่อน (Drive Engines) 3 ด้าน ได้แก่ 1.Social Solution หรือ การดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้เข้าถึงระบบการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย พร้อมการเป็นผู้นำสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางผ่านโครงการสินเชื่อหลายรูปแบบ รวมถึงโครงการสินเชื่อนโยบายรัฐ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อรองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส 2.Business Solution หรือ การเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้สูงด้วย New Business Model พร้อมนวัตกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย โครงการสินเชื่อบ้านวงเงินกู้มากกว่า 3 ล้านบาท และยกระดับการให้บริการ พร้อมประสานความร่วมกับผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จัดทำศูนย์ปฏิบัติการสินเชื่อนครหลวง หรือ Premier Service Center 3.Management Solution หรือการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่ำ ภายใต้กรอบภารกิจและหลักธรรมาภิบาล โดยการปฏิรูประบบการทำงานภายในของธนาคารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรองรับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ การพัฒนาระบบ IT ทั้งระบบ Internet & Mobile Banking โครงการ Service Excellence มุ่งเน้นการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กร โครงการ Prototype DE ปฏิรูปกระบวนการทำงานส่วน Front โดยแบ่งบทบาทหน้าที่ให้เป็น Sale & Service อย่างชัดเจน โครงการ Digital Banking โครงการ e – Payment การรับชำระเงินแบบพร้อมเพย์ : PromptPay และโครงการบัตรเติมเงินเพื่อชำระเงินกู้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรให้เป็น SMART Organization เพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ : ธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการมีบ้าน.- สำนักข่าวไทย