ยกเลิกสัญญากำไล EM สั่งปรับบริษัท 83 ล้านบาท

กระทรวงยุติธรรม 20 ก.ย.-กระทรวงยุติธรรม แถลงยกเลิกสัญญากำไลอีเอ็ม  พร้อมสั่งปรับบริษัทให้เช่า 83 ล้านบาท


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)แถลงยกเลิกสัญญาการเช่าใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวหรือกำไลอีเอ็มกับบริษัท สุพรีม ดีสทิบิวชั่น(ไทยแลนด์)จำกัด หลังพบว่ามีข้อบกพร่องและไม่สามารถใช้งานได้จริง โดยก่อนหน้านี้กรมคุมประพฤติได้ทำสัญญาเช่าใช้ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิด จำนวน 4,000 เครื่อง เป็นเวลา 21 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563  รวม 21 เดือน ด้วยงบประมาณจำนวน 74, 470,000 บาท 


และเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 พบว่าอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถถอดออกได้ เกิดจากความบกพร่องของตัวอุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะไม่ตรงตามขอบ เขตของงาน(TOR)ซึ่งกรมคุมประพฤติได้ดำเนินการแจ้งให้บริษัทนำอุปกรณ์มาเปลี่ยนภายใน 15 วันตามสัญญา ซึ่งบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามระยะเวลาดังกล่าวได้ ดังนั้น เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562 กรมคุมประพฤติจึงดำเนินการแจ้งยกเลิกสัญญาไปยังบริษัทดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

  

ขณะเดียวกันวานนี้(19 ก.ย.) กรมคุมประพฤติได้ส่งหนังสือทวงถามบริษัทให้ชำระหนี้ค่าเสียหายจำนวน 83,825,810 บาท เนื่องจากตรวจสอบพบข้อเท็จจริงว่าอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถถอดออกได้ เกิดจากความบกพร่องของตัวอุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะไม่ตรงตามทีโออาร์ที่กำหนดไว้จึงได้แจ้งยกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัท สุพรีมฯ จำนวนคำปรับแบ่งแยกเป็น4ประเด็นคือ 1.การส่งมอบอุปกรณ์ล่าช้าเป็นเงิน 1.7 ล้านบาท 2.การไม่นำอุปกรณ์มาเปลี่ยนให้ใหม่ภายในระยะเวลากำหนด 26 วันจากจำนวนอีเอ็มทั้งหมด 4,000เครื่อง ค่าปรับเครื่องละ 500บาท/วัน คิดเป็นเงินจำนวน52 ล้านบาท  


3.ค่าเสียหายจากการไม่มาปฎิบัติงานของพนักงานประจำศูนย์อีเอ็ม2 ราย ในระยะเวลา 1เดือน จำนวน 22,500 บาท และ4.ค่าเสียหายหลังการบอกยกเลิกสัญญาอีกทำให้กรมคุมประพฤติไม่สามารถใช้งบประมาณจำนวน 21.6 ล้านบาท และไม่สามารถนำงบปี 62 มาใช้ได้อีก 8.8 ล้านบาท รวม 29.7 ล้านบาท

กรมคุมประพฤติทำหนังสือแจ้งให้บริษัทสุพรีมฯชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว โดยให้ดำเนินการชำระหนี้ค่าเสียหายให้แล้วเสร็จภายในระยะ เวลา 15 วัน หากครบกำหนดระยะเวลาแล้ว บริษัทคู่สัญญาไม่ชำระหนี้ ถือว่าบริษัทคู่สัญญาผิดนัด กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการฟ้องร้องคดีต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทคู่สัญญาต่อไป 

สำหรับขั้นตอนการคำนวณค่าเสียหายกรมคุมประพฤติจะส่งหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดให้เป็นผู้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนอัยการจะเห็นชอบในตัวเลขดังกล่าวหรือไม่นั้น อาจต้องหารือกันอีกครั้ง แต่กรมได้พยายามรักษาผลประโยชน์ของรัฐ โดยได้เร่งรัดให้บริษัทเอกชนคู่สัญญาได้ดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วน และเห็นได้ว่ามีการทำผิดสัญญาอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องการถอดกำไลอีเอ็มออกง่าย ไม่สังสัญญาณเตือนขณะถูกตัดทำลาย และผิดสเปคที่กำหนดไว้ 

อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมคุมประพฤติได้แจ้งไปศาลของดใช้กำไลอีเอ็มจนกว่าจะมีการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ 

สำหรับการใช้อุปกรณ์อีเอ็มเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ปัจจุบันคุกทั่วประเทศมีผู้ต้องขัง 3.6 แสนคนและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่พ้นโทษ และได้รับการพักโทษมีน้อยกว่าที่เข้ามาใหม่ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย   การออกกฎกระทรวงการพักโทษ การขยายเรือนจำ การสร้างเรือนจำใหม่ ก็ต้องทำ ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและการใช้งบประมาณปี 2563 และปี 2564 ด้วย

ด้านนายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมให้ทราบว่าได้มีการยกเลิกสัญญาเช่าให้กำไลอีเอ็มแล้ว และขอให้ประสานไปยังศาลจังหวัดทั่วประเทศ ให้เร่งทำรายงานเสนอศาลเพื่อขอเพิกถอนการใช้กำไลอีเอ็มกับผู้ถูกคุมประพฤติ  ซึ่งก่อนจะแจ้งยกเลิกมีผู้ใช้กำไลอีกเอ็มกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนกว่า 500 คน โดยระหว่างที่ไม่ได้มีการใช้อุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ติดตามตัว ศาลอาจมีคำสั่งให้มารายงานตัว หรือส่งไปทำงานบริการสังคมตามดุลยพินิจของศาล.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ