กฟผ.เผยเตรียมลงทุน 6 แสนล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า

กรุงเทพฯ  8 ส.ค. – กฟผ.เผยงบลงทุน 5 ปีข้างหน้ากว่า 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ – ระบบสายส่งไฟฟ้าอย่างละครึ่ง เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดสัมมนาสื่อมวลชนเรื่อง “การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าใหม่ของประเทศไทย”  โดยนายสหรัฐ  บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม กฟผ. กล่าว ว่า ในแผนการลงทุนของ กฟผ. 5 ปีข้างหน้าจะมีงบลงทุนประมาณ  600,000  ล้านบาท และใน 10 ปีจะมีวงเงิน  1.2  ล้านล้านบาท ครึ่งหนึ่งเป็นการลงทุนสร้างโร งไฟฟ้าใหม่ และอีกครึ่งหนึ่งลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นคงพลังงานของประเทศ  โดยระบบส่งจะเป็นการก่อสร้างมีทั้งทดแทนสายส่งเดิมที่มีอายุนานถึง 40 ปี  การลงทุนสายส่งใหม่กระจายความมั่นคงรองรับโรงไฟฟ้าใหม่  โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จะเข้าระบบ 5 ปีข้างหน้า ประมาณ  5,000 เมกะวัตต์ การรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตามโครงการระบบสายส่งไฟฟ้าอาเซียน   ล่าสุด สปป.ลาวเสนอขยายข้อตกลงร่วมซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน หรือเอ็มโอยู เพิ่มจาก 7,000 เป็น  9,000 เมกะวัตต์  ซึ่งจะเห็นได้ว่าระบบสายส่งมีความสำคัญ โดยจากผลการศึกษาของหน่วยงานวิชาการ ล่าสุดระบุว่าหากไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุก 1 หน่วยจะมีมูลค่า 80 บาท

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ รองผู้ว่าการนโยบายและแผน  กฟผ. กล่าวว่า  เม็ดเงินลงทุนระบบสายส่งรวม 6 00,000 ล้านบาทใน 10 ปีข้างหน้านั้น  การระดมทุนก่อสร้างขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ  แต่ยังติดปัญหาเพดานหนี้สาธารณะอาจจะต้องใช้ระบบกองทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานมาระดมทุน  แต่ระบบนี้จะทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4-5  จากอัตราการกู้เงินที่จะอยู่ระดับร้อยละ 2-3 เท่านั้น  ในเรื่องนี้ฝ่ายการเงินกำลังพิจารณาว่าจะใช้โรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 2 เป็นส่วนการระดมทุนกองทุนสาธารณูปโภค  นอกจากนี้ การลงทุนสายส่งตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2015  (2558-2579)  จะต้องมีการลงทุนเพิ่มอีกหลายโครงการ เช่น  การก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าเพื่อป้อนเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ภายหลัง 10 ปีข้างหน้า  ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างด้วยระบบสายส่งบนดินคงจะเป็นเรื่องยาก เพราะจะมีปัญหาการเวนคืนที่ดิน  ซึ่งคงจะต้องใช้ระบบไฟฟ้าใต้ดิน เรื่องนี้จะต้องมีกาหารือกับ กฟน.ต่อไป


นายกิจจา กล่าวว่า ส่วนการก่อสร้างสายส่งรองรับโรงไฟฟ้าไอพีพี ของกัลฟ์อิเล็กตริกภาคตะวันออกนั้น  หากกัลฟ์ได้รับอนุมัติก่อสร้างทั้ง  2  โครงการ รวม 5,000 เมกะวัตต์ ทาง กฟผ.จะต้องลงทุนก่อสร้างสายส่งไปรับมูลค่า 7,500 ล้านบาท  แต่หากรัฐบาลพิจารณาว่าจะอนุมัติให้กัลฟ์สร้างเพียงโรงเดียว  การลงทุนก่อสร้างสายส่งจะลดลงเหลือประมาณ 600  ล้านบาทเท่านั้น  เรื่องนี้ กฟผ.กำลังจัดทำรายละเอียดการก่อสร้างสายส่ง เพื่อเสนอบอร์ด กฟผ. ซึ่งจะเป็นการดำเนินการรองรับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะอนุมัติให้กัลฟ์ก่อสร้างอย่างไร  โดยคาดว่าจะต้องเสนอ ครม.เพื่ออนุมัตก่อสร้างภายในต้นปี 2560

นายกิจจา กล่าวว่า  การเชื่อมสายส่งไฟฟ้าไปประเทศเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายนั้น  ล่าสุดทางกลุ่มอิตัลไทยเสนอให้ กฟผ.ขายไฟฟ้าให้แก่เมียนมาร์ 100 เมกะวัตต์ เป็นการเริ่มต้นของนิคมอุตสาหกรรมทวาย  ขณะนี้กำลังหารือรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายบุญมาก  สมิทธิลีลา รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง กฟผ. กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุนการก่อสร้างระบบสายส่งเป็นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในประเทศและสายส่งไทยผลิตได้เอง  โดยวงเงินประมูลแต่ละโครงการจะทยอยประกาศออกมาทั่วทุกภูมิภาค  โดยปี 2558 เปิดประมูล 10,000 ล้านบาท  ปี 2559 จำนวน  20,000  ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 20,000  ล้านบาท  จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงส่งผลทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นลดลง ทำให้การประมูลก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าลดต้นทุนประมาณร้อยละ 20-30  จากราคากลางที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม  จากที่เมืองขยายตัวการก่อสร้างสายส่งยอมรับว่ามีปัญหาการคัดค้านของประชาชนมากขึ้น เช่น  สายส่งไฟฟ้าไปภาคใต้มีการคัดค้านจากชาวภเก็ต การสร้างสายส่งภาคตะวันออกมีการคัดค้านจากจังหวัดระยอง เป็นต้น  ซึ่งเรื่องนี้ต้องอาศัยทุกหน่วยงานร่วมทำความเข้าใจ และกำหนดค่าลิดรอนสิทธิ์ในอัตราที่เหมาะสม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว