ตร.รอผลชันสูตร “ลันลาเบล” อย่างเป็นทางการ ผบ.ตร.ย้ำต้องไม่มีการจับแพะเด็ดขาด

กทม. 19 ก.ย.-ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนเงื่อนงำการเสียชีวิตปริศนาของ “ลันลาเบล” พริตตี้สาว พร้อมกำชับต้องไม่มีการจับแพะเด็ดขาด ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ยังไม่ยืนยันผลการชันสูตรที่เผยแพร่ผ่านสื่อฯ แต่สั่งประสานขอเอกสารที่ชัดเจน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือลันลาเบล อย่างเป็นทางการว่า จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุวันที่ 16 ก.ย.2562 เวลา 12.30 น. ผู้ตายได้ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ.นนทบุรี ต่อมานายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น ได้ขับรถเข้ามาภายในหมู่บ้าน


ต่อมาเวลา 17.00 น. นายรัชเดชได้อุ้มผู้ตายออกมาจากบ้าน ก่อนนำไปขึ้นรถขับกลับคอนโดฯ ที่ย่านตลาดพลู แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี โดยมีการพาลันลาเบลที่อยู่ในสภาพหมดสติเข้าไปภายในห้องของตนเองที่ชั้น 6 ต่อมาเวลา 01.03 น. นายรัชเดชได้ติดต่อทางไลน์เพื่อนผู้ตายให้มารับ พร้อมส่งตำแหน่งที่อยู่และเบอร์โทรให้

กระทั่งเวลาประมาณ 01.37 น. นายรัชเดชได้อุ้มผู้ตายออกจากห้อง และนำผู้ตายเข้าลิฟต์เพื่อลงไปยังล็อบบี้ ก่อนนำผู้ตายไปวางนอนไว้บนโซฟาบริเวณล็อบบี้ของคอนโดฯ โดยขณะนั้นนายรัชเดชอ้างว่าไม่รู้ว่าลัลลาเบลเสียชีวิตหรือไม่ จนเวลาประมาณ 01.50 น. เพื่อนและแฟนผู้ตายได้มาคอนโดฯ ก่อนพบว่าลัลลาเบลเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนเรียกตำรวจมาตรวจสอบ

สำหรับการสืบสวนสอบสวน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ได้สอบปากคำไปแล้วประมาณ 10 ปาก และเรียกนายรัชเดชมาให้ปากคำ รวมถึงเก็บ DNA เปรียบเทียบพยานหลักฐานต่างๆ ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นใดๆ ทุกทิ้งจนกว่าาจะได้รับผลชันสูตรพลิกศพจากนิติเวช รพ.จุฬาฯ เพื่อระบุสาเหตุการตายอย่างแท้จริง ซึ่ง ผบ.ตร. กำชับให้ตรวจสอบให้ชัดเจนและให้ความเป็นธรรม โดยจะไม่มีการจับแพะเป็นเด็ดขาด

สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่างทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย โดยเมื่อคืนที่ผ่านในพิธีสวดพระอภิธรรม มีเพื่อนของผู้ตายได้นำเค้กวันเกิดมาเป่าและร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์หน้าโลงศพ เนื่องจากวันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของลันลาเบล เข้าสู่อายุ 26 ปี โดยการสวดพระอภิธรรมที่วัดสะแกงาม เขตบางขุนเทียน จะสวดไปจนถึงวันที่ 21 กันยายน ก่อนเก็บร่างผู้ตายไว้ 100 วัน เพื่อรอหลักฐานและความชัดเจนของคดี

ล่าสุดความเคลื่อนไหวที่ สน.บุคคโล พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยภายหลังการประชุมคลี่คลายคดีการเสียชีวิตปริศนาของลัลลาเบล โดยคดีคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 80 เหลือเพียงบางส่วนที่ยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะผลการชันสูตรศพของผู้ตาย ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้กำกับการ สน.บุคคโล เข้าพบแพทย์ชันสูตรที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อขอทราบผลว่าเป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่าพบช่องคลอดฉีกขาด รวมถึงมีสารคัดหลั่งตกค้างหรือไม่ หากแพทย์ยืนยันเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการจริงก็จะนำเอกสารมาประกอบสำนวน พร้อมกันนี้ยืนยันว่าแพทย์นิติเวชได้ชันสูตรทุกอย่าง รวมถึงทุกสารตกค้างในร่างกายหรือภายในตับ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทุกสารที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย แม้แต่ยาพิเศษที่อ้างว่าไม่สามารถตรวจสอบได้นั้นก็สามารถตรวจสอบจนพบได้

ทั้งนี้ หากได้เอกสารการชันสูตรพลิกศพครบถ้วนภายในวันนี้ (19 ก.ย.) อาจพิจารณาแจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมอบหมายให้รอง ผบก.น.8 เข้ารวบรวมแชทหลุดในโลกโซเชียล เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมของนายรัชเดชเพิ่มเติม

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระบุว่า แฟนหนุ่มของผู้ตายได้ประสานเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนเรื่องแชทลับที่จะมีผลต่อรูปคดียังต้องรอให้แฟนหนุ่มของผู้ตายนำมามอบให้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม