เชียงใหม่ 28 ก.ย.-เสือโคร่งที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ติดโรคหัดแมวตายไป 3 ตัว เจ้าหน้าที่เร่งป้องกันการระบาดของเชื้อ ล่าสุดควบคุมโรคได้แล้ว
เกิดการระบาดของโรคหัดแมว ทำให้เสือโคร่งที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตายไป 3 ตัว โดยเป็นเสือโคร่งเบงกอล 1 ตัว ชื่อ “เจ้าปุ๋น” อายุ 9 ปี, เสือโคร่งขาว ชื่อ “เจ้าพีช” อายุ 6 ปี และเสือโคร่งอินโดจีน ชื่อ “เจ้าซีด” อายุ 15 ปี ทั้งหมดเป็นเสือเพศผู้ จึงทำให้เกิดการหวั่นเกรงว่าจะแพร่ไปสู่สัตว์ชนิดอื่นและคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจากที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพราะมีแมวจรจัดเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก จากนั้นเสือโคร่งในกรงเลี้ยงเกิดอาการเซื่องซึม ไม่กินอาหาร ถ่ายเหลว ท้องเสีย ผอมลง และสัตวแพทย์ได้เข้ามาทำการรักษาเป็นการด่วนแต่ล้มตายในที่สุด
นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผอ.สำนักงานพัฒนาพิงคนคร ชี้แจงการเสียชีวิตของเสือโคร่งว่า เรื่องนี้เกิดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากสาเหตุของโรคหัดแมว ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่มีความชื้นสูง โดยทุกปีเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ป้องกันโดยการฉีดวัคซีนให้กับเสือ แต่โรคที่เกิดขึ้นกับเสือ 3 ตัว อาจเป็นเพราะมีภูมิต้านทานไม่เพียงพอ และหลังเกิดเหตุการณ์ได้เพิ่มมาตรการป้องกันความชื้น จึงสามารถควบคุมโรคได้ใน 1 สัปดาห์ ไม่เกิดการแพร่ระบาดแก่เสือตัวอื่นๆ
สำหรับโรคหัดแมว เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกดการสร้างเม็ดเลือด หรือ “พาร์โวไวรัส” เช่นเดียวกับโรคลำไส้อักเสบในสุนัข เป็นโรคที่มีการติดต่อค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสที่มีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อม เป็นโรคที่ทำให้แมวมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง เพราะสร้างความเสียหายต่อทางเดินอาหาร และทำความเสียหายต่อไขกระดูก ทำให้ไม่สามารถสร้างทั้งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด เรียกว่าภาวะเม็ดเลือดต่ำ จนตายได้.-สำนักข่าวไทย