เร่งสางคดี “ลัลลาเบล” พริตตี้สาว ดับปริศนา พบศพในล็อบบี้คอนโดฯ หรู

กทม. 18 ก.ย.-ตำรวจ สน.บุคคโล เชิญตัวชายหนุ่มต้องสงสัยที่อยู่กับ “ลัลลาเบล” เป็นคนสุดท้ายก่อนเสียชีวิตที่ล็อบบี้คอนโดฯ แห่งหนึ่ง เข้าให้ปากคำ เบื้องต้นยังให้ข้อมูลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องหรือทำให้พริตตี้สาวเสียชีวิต

พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล เชิญตัวนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร อายุ 25 ปี เข้าให้ปากคำ เนื่องจากเป็นบุคคลที่อยู่กับ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือลัลลาเบล ซึ่งนอนเสียชีวิตอย่างปริศนาที่โซฟาของล็อบบี้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. คืนวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่นำร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวลงลิฟต์มาไว้ที่ล็อบบี้ รวมถึงคลิปวิดีโอที่โพสต์ในเฟซบุ๊กขณะที่ผู้เสียชีวิตหมดสติและมีน้ำลายฟูมปาก

จากการให้ข้อมูลนายรัชเดชยืนยันว่า ได้เดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องหาหรือทำให้ลัลลาเบลเสียชีวิต ส่วนในวันเกิดเหตุได้ไปปาร์ตี้ที่บ้านหลังหนึ่งในบางบัวทองและพบเจอกับผู้เสียชีวิต จึงชวนกลับมาดื่มกินกันต่อที่คอนโดฯ โดยระหว่างทางพบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการมึนเมาอย่างหนัก ไม่ได้สติ จากนั้นจึงพาขึ้นห้อง แต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ใดๆ เพราะอยู่ในสภาพที่มึนเมาอย่างหนัก จากนั้นเมื่อมีเพื่อนของผู้ตายโทรศัพท์มาตาม และเห็นว่าอีกฝ่ายมีพวกมาก จึงพยายามนำร่างของผู้ตายลงมา โดยขณะนั้นยังเชื่อว่าลัลลาเบลยังมีชีวิตอยู่ เพราะได้ยินเสียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย จากนั้นจึงนำร่างไปไว้ที่โซฟา และกลับขึ้นไปนอนบนห้องต่อไป พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการพามาเสพยาเสพติดแต่อย่างใด


ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยว่า นายรัชเดชเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงต้องเรียกสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริง ส่วนบุคคลที่มีการปาร์ตี้ที่บ้านย่านบางบัวทองนั้น ตรวจไม่พบยาเสพติดทุกคน และสอบพยานที่บ้าน 5 ปากก็ให้การสอดคล้องกับนายรัชเดช หลังจากนี้ต้องรอผลชันสูตรศพอย่างเป็นทางการก่อนสรุปคดี และยังไม่ได้พิจารณาแจ้งข้อหากับผู้ใด เพราะต้องสอบพยานอีกหลายปาก เพื่อความเป็นธรรม

นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูล โดยประธานคณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดฯ ได้นำภาพกล้องวงจรปิดทุกมุมที่บันทึกภาพชายคนดังกล่าว ตั้งแต่พาผู้เสียชีวิตเข้าไปที่คอนโดฯ เมื่อเวลา 18.02 น. ของวันที่ 16 กันยายน ซึ่งพบเห็นสภาพหญิงสาวคนนี้ในอาการไม่รู้สึกตัว และขณะนำตัวลงจากรถก็ได้นำผู้หญิงลงไปกองไว้ที่พื้น ก่อนปิดประตูรถ พาขึ้นไปบนห้อง จากนั้นได้ลงมาด้านล่างคอนโดฯ ในเวลา 01.37 น. วันที่ 17 กันยายน ในสภาพแน่นิ่ง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินไปมา ก่อนจัดท่าผู้หญิงในลักษณะนอนอยู่บนโซฟาและขึ้นลิฟต์ไป นอกจากนั้นบริเวณที่ลงจากรถยังพบคราบน้ำคล้ายปัสสาวะอยู่

ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเห็นชายคนนี้พาหญิงสาวอีกหลายคนขึ้นคอนโดฯ ส่วนในวันเกิดเหตุหลังจากที่ชายคนนี้นำผู้หญิงคนนี้ลงมาด้านล่างแล้วกลับขึ้นไปบนห้อง ก็พบว่ามีญาติของผู้หญิงเข้ามาที่คอนโดฯ และให้เปิดประตูให้เพื่อเข้ามาหา แต่ท้ายสุดพบว่าหญิงสาวคนนี้ไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้นเมื่อตำรวจมาถึงจึงเข้าไปตรวจสอบที่ห้องชายคนดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.บุคคโล ตั้งแต่วันเกิดเหตุ


ด้านนายวุฒิ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอนโดฯดังกล่าวมาให้ปากคำโดยเล่าว่า ไม่เห็นตอนที่นายน้ำอุ่น พาน้องเบลเข้ามาในคอนโดฯ แต่เห็นตอนลากน้องเบลออกมาจากลิฟท์ เพื่อมานอนที่โซฟา ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร กระทั่งมีคนเข้ามาในคอนโดฯประมาณ 4-5 คน รวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าประตู เนื่องจาจะต้องใช้บัตรผ่านเข้าออก และจะต้องมีลูกบ้านมารับเท่านั้น จากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวพยายามบอกว่าญาตินอนอยู่ที่อยู่โซฟา จึงเดินไปเปิดประตูให้ เมื่อเข้าไปเห็นร่างน้องเบล ต่างอุทานด้วยความตกใจและร้องไห้  จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก่อนที่จะขึ้นไปเฝ้าหน้าห้องของนายน้ำอุ่น เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ตอนนั้นไม่มีคนออกมาเปิดประตูหรือเสียงอะไรเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาตรวจสอบ ก็ลงไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]

ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568 พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว […]