นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า

ทำเนียบฯ 17 ก.ย.-นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า เตรียมการไว้ล่วงหน้า ขอให้เข้าใจการเบิกจ่ายงบฯ พร้อมดูแลฟื้นฟูประชาชนอย่างเต็มที่ ขอบคุณ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาคผ่านรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ และยืนยันว่าการช่วยเหลือไม่ได้ล่าช้า ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ มีขั้นตอนอยู่ และหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการดำเนินงานต้องมี 3 ระยะ คือ ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยรัฐบาลมีงบฯ กลางและงบฯ สำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 50 ล้านในทุกจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ดังนั้นขอให้เข้าใจด้วยว่าไม่ใช่รัฐบาลไม่ให้อะไรเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการเตรียมมาตรการช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลังมีหลายอย่าง เช่น การเยียวยาพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง การบรรเทาหนี้สิน ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ต้องมีมาตรการเสริมหลังน้ำลดด้วย เช่น การปลูกพืชน้ำน้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลทั้งหมด


นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งทำให้ตนมีความสุขที่เห็นทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับรัฐบาล อีกทั้งวันนี้รัฐบาลจะมีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านรายการพิเศษ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ทางสถานีโทรทัศน์ MCOT HD หมายเลข 30 เพื่อนำเงินบริจาคมาสมทบทุนช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติม จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคด้วย

“ประเทศไทยเคยเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อาจหนักหนาสาหัสในบางพื้นที่ บางจังหวัด ซึ่งขณะนี้ประเมินจากสถานการณ์แล้วคาดว่าจะใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าหลังจากน้ำลด จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดช้าในการแก้ปัญหานั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า  ไม่ได้คิดช้า และคิดล่วงหน้ามาตลอด ตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องป้องกันภัย แต่เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกลงมาในปริมาณมากถึง 500 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าขีดรองรับน้ำของไทย จึงต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ และต้องวางแนวทางเป็นระบบ โดยวันนี้ได้เร่งรัดทุกกระทรวงและหน่วยงานให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน หากพื้นที่ใดการช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง ให้แจ้งมายังรัฐบาล หรือศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนด้วย


“ขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นแผนงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ที่ช่วยให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่น มิเช่นนั้นจะอลหม่านมากกว่านี้ ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มดีขึ้น และระดับน้ำลดลงถึง 40 เซนติเมตร เพราะระบบระบายน้ำดำเนินการได้ตามประสิทธิภาพแล้ว คาดว่าจะบรรเทาได้ในไม่กี่วันข้างหน้า และจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู โดยเบื้องต้นพื้นที่การเกษตรน่าจะเสียหายประมาณล้านไร่ และแสนกว่าครอบครัว ดังนั้นจะใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด และคำนึงถึงชีวิตของประชาชนก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปแล้ว จะเห็นสภาพที่เกิดขึ้น รวมถึงมีรายงานเข้ามาตลอด ทุกอย่างมีกรอบการทำงานและมอบภารกิจไปแล้ว โดยตนได้ติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของแต่ละจังหวัดว่าเพียงพอหรือไม่ หากไม่พอให้ขอเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลพร้อมดูแลประชาชน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่สามารถแจกเงินได้ทันที

ส่วนที่มีการมองว่าหลายพรรคการเมืองแย่งซีนในการช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของพรรครัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของฝ่ายค้านที่ลงพื้นที่ ก็เป็นส่วนของฝ่ายค้าน ตนไม่อยากไปทะเลาะด้วย แต่ขอให้เข้าใจว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นมาจากรัฐบาล ส่วนการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน

“ขออย่าไปสร้างความไม่เข้าใจอีกเลย บางคนบอกว่ารัฐบาลไม่รู้หรือไงว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ทำไมผมจะไม่รู้ สำนักงบประมาณอยู่กับผม แต่เขาก็บอกว่าเงินตรงนี้ใช้ตรงไหนได้บ้าง กฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ผมจะเอามาใช้ได้ทั้งหมดทุกอัน ถ้าใช้ได้ทั้งหมด ก็มีปัญหา งบฯฉุกเฉินก็มีส่วนของฉุกเฉิน งบฯ กลางมาใช้ในงบฯ ฉุกเฉินได้ แต่ต้องแบ่งขั้นตอนการใช้จ่ายเงินตรงนี้ให้เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนงานเลี้ยงระดมทุนของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ในคืนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้นว่าจัดเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่ว่าจะภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าทำสิ่งใดที่เป็นการช่วยเหลือประชาชน ก็ถือเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น และขออย่านำมาบิดเบือนหรือให้ร้ายซึ่งกันและกัน เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]