นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า

ทำเนียบฯ 17 ก.ย.-นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า เตรียมการไว้ล่วงหน้า ขอให้เข้าใจการเบิกจ่ายงบฯ พร้อมดูแลฟื้นฟูประชาชนอย่างเต็มที่ ขอบคุณ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาคผ่านรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ และยืนยันว่าการช่วยเหลือไม่ได้ล่าช้า ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ มีขั้นตอนอยู่ และหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการดำเนินงานต้องมี 3 ระยะ คือ ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยรัฐบาลมีงบฯ กลางและงบฯ สำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 50 ล้านในทุกจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ดังนั้นขอให้เข้าใจด้วยว่าไม่ใช่รัฐบาลไม่ให้อะไรเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการเตรียมมาตรการช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลังมีหลายอย่าง เช่น การเยียวยาพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง การบรรเทาหนี้สิน ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ต้องมีมาตรการเสริมหลังน้ำลดด้วย เช่น การปลูกพืชน้ำน้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลทั้งหมด


นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งทำให้ตนมีความสุขที่เห็นทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับรัฐบาล อีกทั้งวันนี้รัฐบาลจะมีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านรายการพิเศษ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ทางสถานีโทรทัศน์ MCOT HD หมายเลข 30 เพื่อนำเงินบริจาคมาสมทบทุนช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติม จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคด้วย

“ประเทศไทยเคยเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อาจหนักหนาสาหัสในบางพื้นที่ บางจังหวัด ซึ่งขณะนี้ประเมินจากสถานการณ์แล้วคาดว่าจะใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าหลังจากน้ำลด จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดช้าในการแก้ปัญหานั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า  ไม่ได้คิดช้า และคิดล่วงหน้ามาตลอด ตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องป้องกันภัย แต่เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกลงมาในปริมาณมากถึง 500 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าขีดรองรับน้ำของไทย จึงต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ และต้องวางแนวทางเป็นระบบ โดยวันนี้ได้เร่งรัดทุกกระทรวงและหน่วยงานให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน หากพื้นที่ใดการช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง ให้แจ้งมายังรัฐบาล หรือศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนด้วย


“ขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นแผนงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ที่ช่วยให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่น มิเช่นนั้นจะอลหม่านมากกว่านี้ ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มดีขึ้น และระดับน้ำลดลงถึง 40 เซนติเมตร เพราะระบบระบายน้ำดำเนินการได้ตามประสิทธิภาพแล้ว คาดว่าจะบรรเทาได้ในไม่กี่วันข้างหน้า และจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู โดยเบื้องต้นพื้นที่การเกษตรน่าจะเสียหายประมาณล้านไร่ และแสนกว่าครอบครัว ดังนั้นจะใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด และคำนึงถึงชีวิตของประชาชนก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปแล้ว จะเห็นสภาพที่เกิดขึ้น รวมถึงมีรายงานเข้ามาตลอด ทุกอย่างมีกรอบการทำงานและมอบภารกิจไปแล้ว โดยตนได้ติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของแต่ละจังหวัดว่าเพียงพอหรือไม่ หากไม่พอให้ขอเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลพร้อมดูแลประชาชน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่สามารถแจกเงินได้ทันที

ส่วนที่มีการมองว่าหลายพรรคการเมืองแย่งซีนในการช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของพรรครัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของฝ่ายค้านที่ลงพื้นที่ ก็เป็นส่วนของฝ่ายค้าน ตนไม่อยากไปทะเลาะด้วย แต่ขอให้เข้าใจว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นมาจากรัฐบาล ส่วนการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน

“ขออย่าไปสร้างความไม่เข้าใจอีกเลย บางคนบอกว่ารัฐบาลไม่รู้หรือไงว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ทำไมผมจะไม่รู้ สำนักงบประมาณอยู่กับผม แต่เขาก็บอกว่าเงินตรงนี้ใช้ตรงไหนได้บ้าง กฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ผมจะเอามาใช้ได้ทั้งหมดทุกอัน ถ้าใช้ได้ทั้งหมด ก็มีปัญหา งบฯฉุกเฉินก็มีส่วนของฉุกเฉิน งบฯ กลางมาใช้ในงบฯ ฉุกเฉินได้ แต่ต้องแบ่งขั้นตอนการใช้จ่ายเงินตรงนี้ให้เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนงานเลี้ยงระดมทุนของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ในคืนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้นว่าจัดเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่ว่าจะภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าทำสิ่งใดที่เป็นการช่วยเหลือประชาชน ก็ถือเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น และขออย่านำมาบิดเบือนหรือให้ร้ายซึ่งกันและกัน เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย