กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – บางจากฯ เตรียมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ลักษณะคล้ายทุนวงเงินไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ต.ค.นี้ เตรียมพร้อมขยายกิจการ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันชั้นนำของไทย เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนทั่วไปเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมขยายกิจการในอนาคต พร้อมแต่งตั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ (BCP) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทและบริษัทย่อยมีแผนการลงทุน เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงพิจารณาออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุน โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการลงทุน และ/หรือ เป็นเงินทุนที่ใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และ/หรือ ชำระคืนหนี้เดิมของบริษัทฯ นอกจากนี้ การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ให้สอดคล้องและรองรับกับแผนการเติบโตในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิ์เลื่อนการชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ของบางจากฯ ครั้งที่ 1/2562 โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้ดังกล่าวได้ก่อนกำหนด หลังครบอายุ 5 ปี หรือตามเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในร่างหนังสือชี้ชวน
ด้านความเสี่ยงนั้น ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่” และจัดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทที่ “BBB+” ซึ่งยังจัดอยู่ในระดับน่าลงทุน หรือ Investment Grade ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างหุ้นกู้และดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจลงทุนทราบต่อไป
นายชัยวัฒน์ ย้ำว่าหุ้นกู้ที่ออกเพื่อเสริมสภาพคล่องและรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ โดยหุ้นกู้ที่ออกประกอบด้วยหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท วงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย